Vampire Twilight 5 เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นหลังจาก เบลล่า สวอน (ครินเตน สจ๊วต) คลอด เรเนสเม่ (แมคเคนซี่ ฟอย) ลูกสาวของเธอ หลังเห็นหน้าลูกน้อยเพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียว เบลล่าหมดสติไปทันทีทำให้ทั้ง เอ็ดเวิร์ด คัลเลน (โรเบิร์ต แพตตินสัน) และ เจคอบ แบล็ก (เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์) เศร้าเสียใจมาก พวกเขาทำทุกวิถีทางเพื่อฟื้นคืนชีวิตของเธอ เจคอบโกรธแค้นและหวังจะฆ่าเรเนสเม่ เพราะเธอเป็นต้นเหตุให้เบลล่าตาย แต่หลังเห็นหน้าเด็กน้อยครั้งแรกดวงจิตของเขาทั้งสองก็เชื่อมต่อกันทันที ดูหนัง
แต่ในภาคนี้เราจะได้รู้ความจริงกันแล้วค่ะว่าทำไมเจคอบถึงได้รักและหวงแหนเบลล่ามากขนาดนี้ แล้วทำไมเบลล่าที่ดูรักเอ็ดเวิร์ดมาก ๆ ถึงได้หวั่นไหวกับเจคอบได้อย่างง่ายดาย และตัวละครที่เข้ามาสร้างสีสัน คงไม่พ้นกุญแจสำคัญอย่าง “เรเนสเม่” เด็กสาวหน้าตางดงามที่สวยราวกับตุ๊กตาซึ่งแสดงโดยแม่หนูน้อย แมคเคนซี่ ฟอย (Mackenzie Foy) ต้องขอชื่นชมเลยว่าทีมแคสเลือกนักแสดงได้ดีมาก ๆ เพราะเธอมีหน้าตาน่ารักน่าชังและละม้ายคล้ายคลึงกับคริสเตนและโรเบิร์ตจนเราเกือบเชื่อว่าเธอเป็นลูกสาวของพวกเขาจริง ๆ
ต้องยอมรับว่าซีรีย์แวมไพร์ ทไวไลท์เป็นอีกหนึ่งหนังแฟนตาซีที่ช่วยเติมเต็มจินตนาการของเราได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้จะไม่มีการร่ายคาถาวิเศษแบบหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่แวมไพร์ ทไวไลท์ก็แสดงให้เราเห็นถึงพลังของความรักและมิตรภาพ ทำให้เราเห็นว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามแค่ไหน ไม่ใช่แค่ความรักระหว่างเอ็ดเวิร์ดและเบลล่า แต่รวมถึงความรักระหว่างครอบครัวคัลเลนและเผ่าหมาป่าควิลยูตอีกด้วย
ส่วนหนึ่งที่แฟนๆ ยังคงหลงรักนิยายชุด Twilight นั่นก็คือการที่ผู้อ่านยอมให้ เบลล่า เป็นตัวแทนของสาววัยรุ่นยุคใหม่ คิดเร็ว ทำเร็ว และที่สำคัญหัวใจเลยแสดงมันออกมาตามความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง จุดนี่แหละที่จี๊ดใจ เด็กสาวยุคใหม่ ที่ไม่กล้าก๋ากั๋นเช่นเธอ เพราะมัวแต่เขิลอาย แบบนี้แหละสาวๆ นักอ่าน
เลยจะยอมพร้อมใจให้ เบลล่า นำพาพวกเธอไปยังเรื่องราวสนุกๆ ของแวมไพร์เจ้าเสน่ห์กับมนุษย์หมาป่าผู้ซื่อสัตย์ แต่ด้วยการมาเป็นภาพยนตร์จะเจาะกลุ่มสาวๆ อย่างเดียวมากไป ก็คงจะไม่ฮิตเท่าตอนเป็นหนังสือ บทหนังเลยต้องถูกดัดแปลงใหม่ไม่ให้เป็นหนังผู้หญิ้ง ผู้หญิง รวมไปถึงเรื่องเล่าจากมุมมอง เอ็ดเวิร์ด และ เจคอบ ก็ไม่ให้เป็นผู้ช้าย ผู้ชาย สุดท้ายบทก็ตกผลึกออกมาได้เป็น The Twilight Saga ที่มีถึง 5 ภาค
และสำหรับ The Twilight Saga: Breaking Dawn Part 2 เรียกแฟนๆ มาส่งท้ายเพื่อปิดฉาก The Twilight Saga อย่างได้ผล นอกจากจุดดึงดูดหนึ่งก็คือ การต่อสู้ของ แวมไพร์และมนุษย์หมาป่า สิ่งที่ผู้ชมหนุ่มๆ รอมาถึง 5 ภาคก็คือฉากแอคชั่นมันส์หยด ที่ภาคนี้มีมาให้ดูแน่นอน และอีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องราวของเหล่าแวมไพร์จากทั่วทุกมุมโลก หนังฟรี
ไม่กี่วันต่อมาเบลล่าฟื้นขึ้นมาพร้อมกับพิษแวมไพร์ที่เอ็ดเวิร์ดฉีดเข้าทั่วร่างกาย เธอรู้สึกราวกับได้เจอชีวิตที่ตามหามาแสนนาน เบลล่าเริ่มเรียนรู้วิธีควบคุมความกระหายและอดทนต่อความต้องการต่าง ๆ เพื่อที่จะได้เข้าใกล้ลูกสาวของเธอ เนื่องจากลูกสาวของเธอนั้นเป็นมนุษย์ครึ่งแวมไพร์ที่มีเลือดเนื้อด้วย และไม่นานพวกโวลตูรีกลุ่มแวมไพร์ที่คอยควบคุมแวมไพร์ทุกตัวที่นำโดย อาโร (ไมเคิล ชีน)
รู้เรื่องนี้เข้าจากความเข้าใจผิดของ เอรินา (แม็กกี้ เกรซ) ที่เป็นญาติของครอบครัวคัลเลน เพราะเธอคิดว่าเรเนสเม่เป็นเด็กอมตะที่อาจจะเป็นอันตรายต่อการเปิดตัวตนของแวมไพร์ได้ อาโรที่ต้องการล้มล้างครอบครัวคัลเลนอยู่แล้วจึงยกกองทัพโวลตูรีมายังฟอร์คส เพื่อเปิดสงครามระหว่างแวมไพร์ ซึ่งเจคอบเองก็ยินยอมพร้อมใจที่จะเข้าสู้ในศึกครั้งนี้เพื่อปกป้องเรเนสเม่ร่วมกับสมาชิกคัลเลนและเหล่าพันธมิตรเขาด้วย
ภาคนี้แสดงให้เราเห็นถึงพลังของความรักและมิตรภาพระหว่างครอบครัวคัลเลนและเหล่าพันธมิตรที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในการยืนยันความบริสุทธ์ของเราเรสเม่และร่วมต่อสู้ในสงครามระหว่างคัลเลนและกลุ่มโวลตูรีที่ถือว่าทรงอิทธิพลและน่ากลัวที่สุดในหมู่แวมไพร์อย่างไม่เกรงกลัว สิ่งเหล่านี้สะท้อนให่เราได้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและจริงใจที่หาได้ยากในปัจจุบันค่ะ และนอกจากเหล่าแวมไพร์แล้วฝูงหมาป่าเองก็เตรียมพร้อมช่วยเหลือในศึกครั้งนี้อีกด้วย
อย่างที่บอกไปในภาค 4.1 เบรกกิ้งดอนแล้วนะคะว่าเด็กอมตะถือเป็นภัยร้ายสูงสุดต่อทั้งฝูงหมาป่าและเหล่าแวมไพร์ด้วยกันเอง และแน่นอนว่าเมื่ออาโรรู้เรื่องนี่เข้าก็รีบเดินทางมาเข้าพบครอบครัสคัลเลนแทบจะทันที และด้วยความแค้นส่วนตัวที่ต้องการกำจัดหมอคาร์ไลน์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้อาโรนั้นขนพันธมิตรโวลตูรีมาอย่างคับคั่ง เพราะคาดว่าถ้าตกลงกันไม่ได้ก็พร้อมเปิดศึกเลยทันที แต่สถานการณ์ก็คลี่คลายลงหลังอลิซมอบให้อาโรได้เห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นผ่านมิมิตของเธอ หนังใหม่
เมื่อเบลล่าได้กลายเป็นแวมไพร์แล้ว นอกจากเธอจะแข็งแกร่ง วิ่งเร็ว และมีสายตาที่กว้างไกลแล้ว เธอยังมีพลังพิเศษที่สามารถปกป้องตัวเองได้ รวมถึงปกป้องคนอื่นได้ด้วย (แต่จะต้องฝึกฝนพลังพิเศษนี้อีกเยอะกว่าจะสามารถปกป้องคนอื่นได้) ซึ่งด้วยพลังนี้เองจึงทำให้แม้แต่เจนหนึ่งในแวมไพร์สมาชิกของโวลตูรี่ที่สามารถบังคับจิตใจใครก็ได้ถึงกับต้องหงายเงิบมาแล้ว อันที่จริงแล้วหากใครจำภาคแรกได้ก็จะร้องอ่อทันที เพราะในภาคแรกนั้นได้บอกเป็นนัย ๆ มาก่อนแล้วว่าเธออาจจะมีพลังพิเศษบางอย่างที่ยังเป็นปมปริศนาให้สงสัยอยู่ เพราะเอ็ดเวิร์ดไม่สามารถอ่านจิตใจเธอได้เลย มันทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แตกต่างและชวนให้เข้าหาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ปริศนานี้ก็ได้คลายความสงสัยไปแล้วค่ะ
เรเนสเม่ ลูกครึ่งมนุษย์-แวมไพร์ ลูกสาวของเอ็ดเวิร์ดและเบลล่า บอกได้เลยว่าเธอคือกุญแจสำคัญที่สุดในภาคนี้ เพราะเรเนสเม่จะเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเอ็ดเวิร์ดเบลล่าและเจคอบให้เป็นครอบครัวเดียวกันซึ่งในเรื่องนี้หนูน้อยแมคเคนซี่ ฟอย ที่รับบทเป็น เรเนสเม่ ก็สามารถแสดงออกมาได้ดีเยี่ยม ทั้งหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูและการแสดงที่ดูเป็นธรรมชาติ และเมื่อยืนร่วมกับโรเบิร์ตและคริสเตนก็ดูเป็นครอบครัวมากที่สุด
เพราะภาคนี้ ขมเอาแวมไพร์หลากหลายเชื้อชาติทั่วโลกออกมาโชว์ ไม่ว่าจะเป็น แวมไพร์เดนาลี, แวมไพร์อะเมซอน, แวมไพร์อิยิปต์, แวมไพร์โรมาเนีย, แวมไพร์ไอริช แวมไฟร์ญี่ปุ่น รวมไปถึงพวก แวมไพร์เร่ร่อน แต่ละคนจะมีรูปลักษณ์ตามเผ่าพันธุ์จริงๆ และที่เด็ดก็คือบางคนมีพลังพิเศษอีกด้วย ดูหนังฟรี
ทั้งสร้างกระแสไฟฟ้า ควบคุมดิน น้ำ ลม ไฟ สร้างภาพมายา ฯลฯ และ พวกนี้ต้องประชันกับกลุ่มโวลตูรี่ ที่มีพลังด้านมืดไม่เหมือนใครเช่นกัน ศึกสุดท้ายของเหล่าแวมไพร์เลยจะเต็มไปด้วยความตื่นตา แบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหน ขอไม่พูดถึงมนุษย์หมาป่านะ
ได้กลายเป็นแวมไพร์เต็มตัว พร้อมทั้งให้กำเนิดลูกสาว เรเนสเม่ (แมคเคนซี่ ฟอย) เด็กอมตะที่มีการเติบโตที่รวดเร็ว จนทำให้ ตกเป็นเป้าหมายในการลงทัณฑ์จากกลุ่มแวมไพร์ราชวงศ์โวลตูรี่ ในขณะเดียวกัน เจคอบ (เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์) หมาป่าเพื่อนรักของเบลล่า ได้อิมปรินท์ผูกจิต กับ เรเนสเม่
และนำฝูงหมาป่าแห่งเมืองฟอร์คสมาร่วมกับกองกำลังของกลุ่มพันธมิตรแวมไพร์แห่งครอบครัวคัลเลน เพื่อทำสู้ในศึกสุดท้ายกับ โวลตูรี่ เพื่อ ปกป้อง เรเนสเม่ … โดยเนื้อเรื่องทั้งหมดในภาคจบนี้ ตัวละครสำคัญของเรื่องที่เป็นผู้เดินทางไปรวบรวมเหล่าพันธมิตรแวมไพร์เพื่อปกป้องคนที่เขารัก
ก็คือ เอ็ดเวิร์ด ที่รับบทโดย โรเบิร์ต แพททินสัน โดยตัวเขาได้เปิดเผยว่า เพราะนี่เป็นภาคจบและความรักระหว่าง เอ็ดเวิร์ด กับ เบลล่า (คริสเตน สจ็วต) ได้เดินทางมาถึงจุดที่ พวกเขาจะอยู่ด้วยกันไปจนวันสุดท้าย เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะปกป้องและยืนเคียงข้างเธอตลอดไป “ผม กับ คริสเตน ดูหนังออนไลน์
รู้จักกันตั้งแต่ปี 2008 ตอนเริ่มถ่ายทำ ทไวไลท์ ภาคแรก พวกเราตกหลุมรักกันในชีวิตจริงและผ่านเรื่องราวระหว่างทางมากมาย สิ่งหนึ่งที่ผมนึกถึงตลอดระหว่างการถ่ายทำหนังภาคจบก็คือ มันคงดีไม่น้อยถ้าเราได้อยู่คู่กันไปจนวันสุดท้ายจริงๆ” โรเบิร์ต แพททินสัน กล่าวถึง อาการอินกับหนังภาคจบ
เป็นหนังสือเล่มที่ 4 ของวรรณกรรม “แวมไพร์ ทไวไลท์” วางจำหน่ายในปี 2008 และขายได้ถึง 1.3 ล้านเล่ม ในเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมง ซึ่งก็เป็นการเปิดตัวขายหนังสือในวันแรกที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยติดอันดับหนังสือขายดีของ USA Today (ยูเอสเอ ทูเดย์) ถึง 58 สัปดาห์ติดต่อกัน
และในปัจจุบันก็ขายได้แล้วกว่า 15 ล้านเล่มทั่วโลก นอกจากนั้นทางเวบไซด์ Fandango (ฟานดันโก้) ก็ยังเปิดให้โหวตว่าในอีกสามเดือนที่เหลือของปี 2012 หนังเรื่องไหนที่ทุกคนรอคอยที่จะดูมากที่สุด ซึ่งก็เป็นไปตามคาดหมายเมื่อ Breaking Dawn – Part 2 (เบรคกิ้ง ดอว์น ภาค 2) ได้รับการโหวตของคนทั่วไปถึง 51% นำโด่งเป็นอันดับหนึ่งหนังที่ผู้คนรอคอยจะชมมากที่สุดในปี 2012 ชนะหนังทุกเรื่องในปี 20 12 ที่เหลืออยู่อีกด้วย
ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับกำหนดฉายของภาพยนตร์ที่คนทั้งโลกรอคอย กับ THE TWILIGHT SAGA : BREAKING DAWN PART 2 หรือชื่อไทยว่า แวมไพร์ ทไวไลท์ 4 เบรคกิ้ง ดอว์น ภาค 2 ภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ชุด ทไวไลท์ ซึ่งถือเป็นตอนของภาพยนตร์ที่ใช้เวลาในการถ่ายทำนานที่สุดของภาพยนตร์ชุดนี้ด้วย