What's happening?

Spider-Man: No Way Home

Spider-Man: No Way Home

Your rating: 0
1 1 vote

Synopsis

Spider-Man: No Way Home

Spider-Man: No Way Home

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังมีข่าวว่าทีเซอร์ของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่แฟนๆ มาร์เวลเฝ้ารออย่าง Spider- M an : No Way Home ดูหนัง นั้นหลุดว่อนเน็ตด้วยฝีมือของทีมงานภายในของบริษัทจากการแอบถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ และแม้ว่าค่าย SONY ดูหนังบู๊
จะพยายามตามลบเท่าไหร่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันการเสียแล้วด้วยตัวคลิปถูกแพร่ไปอย่างรวดเร็วทั้งผ่านการก็อปปี้ ทวิต
หรือว่าโหลดวิดีโอไว้ก็ตาม หนังฟรี ไม่นานจากนั้นทางค่ายจึงแก้เกมเดินหน้าต่อ ดูหนัง ปล่อยทีเซอร์ฉบับจริงออกมาเสียเลยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา และสำหรับทีเซอร์ของจริงนี้แฟนๆ ดูหนังออนไลน์

หนังใหม่ มาร์เวลและสไปดี้ก็เตรียมตัวพบกับการผจญภัยครั้งใหม่หลังรอลุ้นค้างเติ่งกันมาอย่างยาวนาน ด้วยภาคล่าสุดที่ทิ้งท้ายเรื่องเอาไว้ว่าสไปเดอร์แมนถูกเผยโฉมแล้วว่าคือ ดูหนังฟรี Peter Parker แฟนๆจึงลุ้นกันยกใหญ่ว่า  ดูหนัง เนื้อเรื่องครั้งใหม่นี้จะดำเนินไปในทิศทางไหนบ้าง ดูหนังออนไลน์

Spider-Man: No Way Home

เรื่องย่อ

เป็นครั้งแรกที่ ‘Spider-Man’ ไม่ต้องซ่อนตัวใต้หน้ากากอีกต่อไป และเขาไม่สามารถแยกชีวิตในฐานะซูเปอร์ฮีโรออกจากชีวิตปกติได้อีกต่อไป เมื่อเขาไปขอให้ด็อกเตอร์สเตรนจ์ช่วยเหลือ แต่มันกลับกลายเป็นวุ่นวายกว่าเดิม บังคับให้เขาต้องหาทางแก้ไขและหาความหมายของการเป็นสไปเดอร์แมน หนังเรื่องนี้จะแนะนำสิ่งที่เรียกว่า Multiverse ในจักรวาลมาร์เวลอย่างเป็นทางการ พร้อม ๆ กับวายร้ายจากทั้ง ‘Spider-Man’ และ ‘The Amazing Spider-Man’ ก็จะมาปรากฎตัวด้วยเช่นกัน

เป็นที่รู้กันดีว่าสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นนี้ของค่ายโซนี่และมาร์เวลถูกเปิดตัวด้วยการเกณฑ์เข้าเป็นหนึ่งในทีมอเวนเจอร์สจาก Iron Man ที่รับบทโดย Robert John Downey, Jr.
โดยเส้นเรื่องในภาคนี้อ้างอิงจากทีเซอร์แล้วเป็นการเล่าต่อจากเหตุการณ์ที่สไปเดอร์แมนถูกเผยตัวตนว่าเป็นใคร ตามมาด้วยคลิปวิดีโอจากตัวร้ายภาคก่อนหน้าอย่าง Mysterio
ที่ป้ายสีฮีโร่วัยมัธยมปลายไว้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นและการที่เขาตายเป็นเพราะสไปเดอร์แมน
เนื้อเรื่องจึงน่าจะดำเนินไปบนเส้นทางของการที่สไปเดอร์แมนตกเป็นจำเลยของสังคมและพยายามแก้ไขความถูกต้องกลับคืนมาอีกครั้ง

รวมจักรวาล ‘Spider-Man

เรายังได้เห็นฉากที่เหล่าคนรอบตัวของเขาถูกสอบสวนในโรงพักทั้งเพื่อนสนิทอย่างเนตและป้าเมย์
สไปดี้จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องคนที่เขารักและแก้ไขเหตุการณ์ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้
เราถึงได้เห็นตัวละครสไปดี้ตามไปขอความช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมอเวนเจอร์สอย่าง
Doctor Strange กันในเรื่องอีกด้วย

Spider-Man: No Way Home

การช่วยเหลือของ ด็อกเตอร์ สเตรนจ์

ก็คงจะหนีไม่พ้นการใช้คาถาร่ายเวทย์ ซึ่งเดาว่ามันคือคาถาที่ใช้ลบความทรงจำทุกคนที่รู้ว่าเขาคือสไปเดอร์แมนออกไป
หรืออาจเป็นคาถาที่ช่วยเรื่องการย้อนเวลากลับไปช่วงเวลาก่อนหน้านั้น
และในทีเซอร์ยังมีช่วงจังหวะที่ตัวละครหว่องพูดไว้อีกว่าไม่ให้ใช้เวทมนตร์คาถานั้นในการช่วยเหลือเด็ดขาด
เพราะในภาพยนตร์ของจักรวาลมาร์เวลยังมีการพูดอยู่ตลอดเวลาว่าการย้อนเวลากลับหรือบิดเบือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมักส่งผลลัพธ์ที่หักเหไปจากเดิมและคาดไม่ถึงเสมอ
ซึ่งจากทีเซอร์แล้วก็คาดการณ์ว่าคาถามันจะเกิดการผิดพลาดและบิดเบี้ยวมิติคู่ขนานขึ้น ไม่แน่ว่าทั้งสไปเดอร์แมนและด็อกเตอร์
สเตรนจ์ เองก็อาจหลุดเข้าไปสู่ Multiverse แล้วก็เป็นได้ โดยด็อกเตอร์ สเตรนจ์ ยังพูดทิ้งท้ายในทีเซอร์ไว้ว่า
“be careful what you wish for” หรือจงระวังจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการอีกด้วย
ที่รู้ๆ เลยคือการขอความช่วยเหลือครั้งนี้ของสไปเดอร์แมนเป็นการเล่นกับมิติของเวลาและส่งผลให้เกิดเหตุการณ์หยุงเหยิงที่ต้องมาตามแก้ไขกันอีกแน่นอน

นั่นคือเรื่องราวที่จับใจความได้จากวิดีโอตัวอย่างที่ถูกปล่อยออกมา และสำหรับการคาดเดาในครั้งนี้เราขอเริ่มต้นด้วยว่านี่อาจเป็นภาคสุดท้ายของตัวละครสไปเดอร์แมนก็เป็นได้
เนื่องจากตัวละครนี้เคยอยู่ในค่ายของมาร์เวลมาก่อนแต่ต้นสังกัดขายลิขสิทธิ์ไปด้วยเหตุผลด้านการผลิตภาพยนตร์
ปัจจุบันจึงเป็นลิขสิทธิ์ของ SONY ที่ซื้อเรื่องราวไปทำตั้งแต่ภาคแรกสุดที่เล่นโดย
Tobey Maguire ต่อด้วย Andrew Garfield โดยมาร์เวลร่วมจัดทำฉบับของ Tom Holland ขึ้นเพื่อให้ตัวละครสไปดี้ได้เข้ามามีส่วนร่วมในจักรวาลของฮีโร่และทีมอเวนเจอร์สนั่นเอง
จึงมีหลายคนคาดการณ์กันว่างานนี้อาจเป็นภาคสุดท้ายทิ้งทวนก่อนสไปดี้ต้องหอบหิ้วกระเป๋ากลับสู่ค่าย SONY ดังเดิม

 

คาดการณ์เรื่องที่สองคือ เราอาจมีโอกาสได้เห็นสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นอื่นๆ ทั้งฉบับของโทบี้และแอนดรูว์ในเรื่องโผล่มาแจมด้วยก็เป็นได้ เพราะมีข่าวลือหลุดออกมาว่าเรื่องนี้จะเล่าถึงโลกคู่ขนาน (ซึ่งสังเกตได้จากการช่วยเหลือของ
ด็อกเตอร์ สเตรนจ์ ที่เข้าไปพัวพันกับมิติคู่ขนาน และการพูดถึงเรื่องของ Multiverse ตลอดเวลาในทีเซอร์) ซึ่งมันอาจส่งผลให้เราได้เห็นตัวละครอย่างสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นก่อนหน้าด้วยก็เป็นได้

การคาดการณ์ถึงสไปเดอร์แมนในมิติอื่นมีแนวโน้มว่าจะเป็นจริงมากทีเดียว เพราะก่อนทีเซอร์จะปิดจบไปเราได้เห็นตัวละครฝ่ายผู้ร้ายอย่าง Doctor Octopus
ศัตรูตัวฉกาจที่โผล่มาในสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นของโทบี้ แมกไกวร์ ในภาคที่สอง กลับมาเป็นผู้ร้ายในภาคนี้อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นความน่าขนลุกคือค่ายยังพานักแสดงคนเดิมอย่าง Alfred Molina กลับมารับบทบาทนี้อีกด้วยเช่นกัน

ดูเหมือนว่าชะตากรรมของเพื่อนบ้านผู้แสนดีอย่าง ‘สไปเดอร์-แมน’ จะเริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ขึ้นทุกที ๆ ครับ หลังจากที่รับงานฮีโรระดับเบอร์รองมาแล้วใน 2 ภาคก่อน ภาคนี้ในฐานะที่เป็นหนังในช่วงต้นของ MCU ในเฟส 4 ที่กำลังเดินหน้าปูพื้นเรื่องราวแบบ ‘พหุจักรวาล’ หรือ ‘มัลติเวิร์ส’ (Multiverse) เพื่อขยายขอบเขตวิธีการเล่าเรื่องให้กว้างกว่าแนวแอ็กชันแบบเดิม ซึ่งตอนนี้มีซีรีส์ใน Disney+

ที่ปูพื้นเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วทั้ง ‘Loki’ และแอนิเมชัน ‘What If…? ‘ ซึ่งซีรีส์ทั้งสองเรื่องนี้เป็นตัวสรุปอย่างชัดเจนว่า มัลติเวิร์สคือแกนหลักสำคัญและความโกลาหลครั้งใหญ่ที่เหล่าฮีโรต้องรับมือให้ได้ ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็ดูเหมือนว่าความโกลาหลนั้นได้ปรากฏชัดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว และไอ้แมงมุมก็ถือว่าเป็นฮีโรตัวแรก ๆ ที่ต้องรับผลแห่งความโกลาหลนี้แบบชัด ๆ

 

ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะในทีเซอร์เองเรายังจะได้เห็นสไปเดอร์แมนในชุดคอสตูมใหม่สีดำและลวดลายสีทองผ่านตาไปช่วงหนึ่ง โดยชุดนี้คงคุ้นตาแฟนๆ สาวกมาร์เวลมาแล้วจาก Hot Toys ที่ถูกทำขึ้นเพื่อโปรโมตภาพยนตร์ในช่วงก่อนหน้า
หลายฝ่ายต่างคาดการณ์ไปอีกด้วยซ้ำว่าชุดนี้อาจใช้ขึ้นเพื่อต่อสู้กับตัวละครที่ใช้พลังไฟฟ้าเป็นอาวุธอย่าง
Electro ที่รับบทโดย Jamie Foxx ในภาพยนตร์ The Amazing Spider-man 2 ด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องราวในภาคนี้ก็จะเล่าต่อจาก End Credits ตัวแรกที่ทิ้งเอาไว้ในภาคก่อนหน้า (Spider-Man : Far From Home (2019)) ซึ่งถ้าใครที่ยังไม่ได้ดู ก็ต้องขอเบรกให้ไปหาดูก่อนให้เรียบร้อยก่อนนะครับ (ทั้งสองภาคมีให้ดูใน HBO GO) เพราะว่าเนื้อเรื่องของภาคนี้จะเริ่มต้นมาจาก End Credits ตัวนั้นแหละ หลังจากที่สไปเดอร์แมนสามารถโค่น ‘มิสเทริโอ’ (Jake Gyllenhaal) ได้สำเร็จ

มิสเทริโอก็วางระเบิดตูมสุดท้ายด้วยการปล่อยคลิปเฟกนิวส์ผ่านจอ LED ที่กล่าวหาว่าปีเตอร์เป็นคนสังหารเขาอย่างป่าเถื่อน กล่าวหาว่าปีเตอร์โอ่อ้างจะเป็นไอรอนแมนคนถัดไป ข่าวนี้ยังไปถึงหู ‘เจ. โจนาห์ เจมส์สัน’ (J.K. Simmons) นักข่าวสำนักข่าวออนไลน์ TheDailyBugle.net ออกมาแฉ (จากข้อมูลของมิสเทริโอ) จนทำให้คนทั้งโลกรู้กันไปทั่วว่าสไปเดอร์แมนคือปีเตอร์ ปาร์คเกอร์

และในภาคนี้ แน่นอนว่า ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เพื่อนบ้านที่แสนดี ถูกภัยเฟกนิวส์ตราหน้าจนทำให้ใช้ชีวิตยากลำบากกว่าเดิม

 

Spider-Man: No Way Home

เรียกว่าเป็นการข้ามมิติคู่ขนานที่ดูยุงเหยิงและอิรุงตุงนังใช้ได้ ไม่รู้ว่าที่เราคาดการณ์มาทั้งหมดจะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน จะถูกตุ๋นหม้อใหญ่จากค่ายมาร์เวลและโซนี่หรือไม่
แต่ที่แน่ๆ ฮีโร่สไปดี้ภาคนี้ก็ยังพยายามที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้องและปกป้องคนที่เขารักอย่างแน่นอน
งานนี้แฟนๆ รอติดตามชมภาพยนตร์ที่มีคิวจะเข้าฉายในช่วงสิ้นปีนี้กันได้เลยถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดู 

‘Spider-man : Homecoming’ (2017)

‘Spider-man : Far From Home’ (2019) (*จำเป็นมาก ๆ )

ดูเพื่อปูพื้นเรื่องตัวร้ายที่ปรากฏในภาคนี้ 

‘Spider-man’ (Green Goblin) (2002)

‘Spider-man 2’ (Doctor Octopus) (2004)

‘Spider-man 3’ (Sandman) (2007)

‘The Amazing Spider-man’ (Lizard) (2012)

‘The Amazing Spider-man 2’ (Electro) (2014)

ดูเพื่อปูพื้นเรื่องราวของสไปเดอร์-แมน 

‘Captain America : Civil War’ (2016)

‘Avengers : Infinity War’ (2018)

‘Avengers : Endgame’ (2019)

ดูเพื่อปูพื้นให้เข้าใจเรื่อง ‘Multiverse’ 

‘Loki’ (2021)

‘What If…?’ (2021)

Director

Director

Cast

Similar titles

Scouts Guide to the Zombie Apocalypse 3 ลูกเสือปะทะซอมบี้
Chucky 3 แค้นฝังหุ่น ภาค 3
Cadaver ห้องเก็บศพ
The Rescue (2020) เดือดกู้ภัย พิทักษ์โลก
Rumble Through the Dark (2023) บรรยายไทย
Hard to Kill ฟอกแค้นจากนรก (1990) บรรยายไทย
Rain Man อัจฉริยะแห่งออทิสติก
Lockout (2012) แหกคุกกลางอวกาศ
The Girl with the Dragon Tattoo พยัคฆ์สาวรอยสักมังกร
Jo Pil Ho The Dawning Rage (2019) แค้นเดือดต้องชำระ
The Favourite อีเสน่ห์ร้าย
Confidential Assignment คู่จารชน คนอึนมึน

Leave a comment