Howling Village อุโมงค์ผีดุ
ดูหนัง เรื่องราวของนักจิตวิทยาสาว โมริตะ คานาเดะ ที่พบว่าเกิดเหตุประหลาดๆ ขึ้นรอบตัวเธอ นับตั้งแต่ผู้หญิงร้องเพลงเด็กพี่น้องสูญหาย และปริศนาการตายต่อเนื่องที่ไม่ทราบสาเหตุ ดูหนัง เป็นสิ่งที่ทำให้เธอฉุกคิดได้ว่าทุกคนในนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุโมงค์อินุนากิที่ต้องคำสาป เป็นเหตุทำให้คานาเดะมุ่งหน้าไปยังอุโมงค์ เพื่อพิสูจน์ตามหาความจริง ดูหนังสยองขวัญ
หนังฟรี เรื่องราวของคุณหมอจิตเวชเด็กสาว “คานาเดะ” ผู้ที่สัมผัสได้ถึงสิ่งเหนือธรรมชาติมาตั้งแต่ยังเด็ก หนังใหม่ พยายามตามพี่ชายและน้องชายที่หายตัวไปอย่างเป็นปริศนาหลังจาก ดูหนัง ที่เข้าไปในอุโมงค์อาถรรพ์ ที่เชื่อกันว่าเชื่อมต่อกับหมู่บ้านในตำนานที่ถูกทอดทิ้งให้รกร้าง ดูหนังออนไลน์
ในขณะที่กำลังพยายามตามหาพร้อมกับสืบหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ปริศนาสยองขวัญมากมายที่เกิดขึ้นรอบตัว ดูเหมือนว่าเธอจะได้พบกับเงื่อนงำอันน่าสะพรึงกลัว ดูหนังฟรี ที่ยิ่งขุดลงไปลึกมากเท่าไหร่ สิ่งทะลักกลับมาจากความมืดมิด คือคาวเลือดและความตายอันน่าสยดสยองมากเท่านั้น
สำหรับจุดเด่นของ ดูหนังออนไลน์ ผี Howling Village คงต้องยกให้ในเรื่องของความรวดเร็วของเรื่องราวที่เป็นสไตล์เฉพาะตัวของหนังสยองขวัญญี่ปุ่น เพราะผีในเรื่องมันปรากฏตัวออกมาให้เห็นทันทีตั้งแต่ช่วงแรกของเรื่องราว ไม่เหมือนกับผีของทางตะวันตกที่ต้องอาศัยลีลายาวนานกว่าที่จะโผล่ออกมาให้เห็นก็ต้องผ่านช่วงหลังของเรื่องไปแล้ว
อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจคือ บรรยากาศของเรื่องราว โดยเฉพาะในบริเวณปากทางเข้าของอุโมงค์อาถรรพ์ ที่ถูกปิดเอาไว้ แต่กลับไม่ได้ปิดจตายทั้งหมดส่งผลให้เหลือช่องว่างพอให้คนปีนผ่านไปได้ไม่ยาก แต่ทันทีที่เจอบางสิ่งที่น่ากลัวในนั้น มันก็กลับกลายมาเป็นกำแพงที่กั้นอิสรภาพอันน่ากลัวได้ด้วยเช่นกัน
ในส่วนของจุดด้อยหนังผี Howling Village ต้องบอกว่ามีหลายส่วนที่ทำออกมาได้ไม่ค่อยสมเหตุผลนัก แถมในส่วนที่ควรอธิบายเพิ่มเติมก็เล่นทิ้งมันไปอย่างน่าตาเฉยจนทำให้เกิดคำถามตามมาหลายอย่างว่าผู้กำกับต้องการที่จะสื่อในเรื่องอะไรกันแน่
ถึงแม้ว่ากระแสวิจารโดยรวมของหนังผี Howling Village จะค่อนข้างเป็นไปในทิศทางที่ไม่ดีนัก แต่สำหรับผู้เขียนมันก็ไม่ได้แย่นัก หนังเรื่องนี้ยังพอที่จะมีช่วงเวลาหลายครั้งที่ทำให้รู้สึกขนลุก และมีกลิ่นอายของหนังสยองขวัญในอดีต ที่หนังยุคใหม่ไม่สามารถทำได้ ถ้าหากใครเคยดูหนังสยองขวัญญี่ปุ่นมากพอจะเข้าใจในประเด็นนี้ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น ถ้าหากถามว่าหนังผี Howling Village ควรแนะนำให้ดูหรือเปล่า!? ก็ต้องตอบว่าอยู่ในระดับที่ “พอดูได้” แบบไม่คิดมาก เพราะหนังโดยรวมจัดอยู่ในกลุ่มแบบปานกลาง ทั้งบรรยากาศและโครงเรื่องที่เกือบจะน่าสนใจ ทำให้หนังผี Howling Village ยังพอเก็บไว้ในดู เวลาที่ทำกิจกรรมอื่นควบคู่ไปด้วยอย่างเช่น ทำรายงาน ทำการบ้าน เป็นต้น
ผลงานกำกับของ ผู้กำกับหนังสยองขวัญอย่าง Ju-On และ Howling Village อุโมงค์ผีดุ ซึ่งอ้างอิงจาก อุโมงอินุนาคิ และสร้างความสะพรึงต่อชาวญี่ปุ่นจนคว้าอันดับ 1 BOX OFFICE ประเทศญี่ปุ่น
เรื่องราวเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นรอบตัวนักจิตวิทยาสาวโมริตะ คานาเดะ มี ตั้งแต่ผู้หญิงร้องเพลงเด็กพี่น้องสูญหายและปริศนาการตายต่อเนื่องที่ไม่ทราบสาเหตุเธอฉุกคิดได้ว่าทุกคนในนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุโมงค์ อินุนากิ ที่ถูกสาป คานาเดะ มุ่งไปยังอุโมงค์เพื่อตามหาความจริง
“ยูมะ” และ “อากินะ” แฟนสาวของเขา ได้เผลอรับโทรศัพท์ปริศนาที่ตู้สาธารณะ แล้วลองเข้าไปยังอุโมงค์ อินุนากิ เพื่อเล่นกิจกรรม “ทดสอบความกล้า” ซึ่งพวกเขาเกือบจะถูกฆ่าตายและดูเหมือนว่า อากินะ จะเสียสติไปแล้ว ยูมะ ได้ปรึกษากับน้องสาว “คานาเดะ โมริตะ” จิตแพทย์ที่มีสัมผัสที่หก เพื่อหาสาเหตุของอาการของ อากินะ หลังจากนั้นไม่นาน อากินะ ก็ฆ่าตัวตาย ทำให้ยูมะได้พาพรรคพวกกลับไปที่นั่นอีกครั้ง เพื่อหาความจริง แต่เพื่อนของเขาก็เสียชีวิตอย่างลึกลับ ในตู้โทรศัพท์ใกล้หมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่นอกอุโมงค์.
เมื่อยิ่งสืบ ก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวของหมู่บ้านนี้ชัดเจนขึ้น มันมีเหตุบางอย่างที่ทำให้หมู่บ้านนี้ และอุโมงค์ปริศนายังคงอยู่ คานาเดะ ก็เริ่มที่จะตระหนักดีว่าบรรพบุรุษของเธอ ก็อาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวก็เป็นได้
อุโมงค์อินุนากิ ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุโอกะ ที่นี่ถูกสร้างในช่วงปี 1886 และสร้างเสร็จในปี 1949 แต่ด้วยความที่อุโมงค์นี้ตั้งในป่าลึก และวังเวง ทำให้รัฐบาลได้สร้าง “อุโมงค์ใหม่ อินุนาคิ” เพื่อทดแทน ส่วนอุมฌงค์เก่านั้นถูกปิดตาย และกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของเหล่ากุ๊ย นักซิ่งแว้น และยากูซ่า ที่มักจะเอาศพคู่อริมาทิ้งหมกไว้ที่นี่ และยังเป็นหนึ่งในที่ๆยอดฮิตในการฆ่าตัวตาย คดีฆาตกรรม
อุโมงค์อินุนากิ ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุโอกะ ที่นี่ถูกสร้างในช่วงปี 1886 และสร้างเสร็จในปี 1949 แต่ด้วยความที่อุโมงค์นี้ตั้งในป่าลึก และวังเวง ทำให้รัฐบาลได้สร้าง “อุโมงค์ใหม่ อินุนาคิ” เพื่อทดแทน ส่วนอุมฌงค์เก่านั้นถูกปิดตาย และกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของเหล่ากุ๊ย นักซิ่งแว้น และยากูซ่า ที่มักจะเอาศพคู่อริมาทิ้งหมกไว้ที่นี่ และยังเป็นหนึ่งในที่ๆยอดฮิตในการฆ่าตัวตาย คดีฆาตกรรม คดีคนหายสาปสุญมากมายที่เกี่ยวข้องกับอุโมงค์แห่งนี้ และที่นี่ก็มักจะลือถึงเรื่องราวของการพบเห็นวิญญาณเร่ร่อน ทำให้เป็นสถานที่ๆวัยรุ่นญี่ปุ่น รายการลี้ลับต่างๆชอบมาลองดีกัน เจอบ้าง ไม่เจอบ้างก็เป็นที่กังขา ถกเถียงกันมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ ว่ากันว่า หากใครเข้าไปในอุโมงค์พิศวงนี้ตอน “ตีสาม” ปลายทาง จะพาคุณไปสู่หมู่บ้านลี้ลับไม่มีในแผนที่ประเทศญี่ปุ่นหรือ Google Mapใดๆ ที่นี่มี กรรมวิธีประหลาด และภาษาเฉพาะตัว พร้อมกับคนในหมู่บ้านที่มีทั้งคนเป็นที่เสียสติ และวิญญาณอาฆาตอยู่ร่วมกัน
และความน่ากลัวสุดลี้ลับแบบนี้ คงไปโดนใจ ผกก. ทาคาชิ ชิมิสึ ที่เคยมือขึ้นกับ Ju-on 1-2 เลยหยิบเอาเรื่องราวเหล่านี้มาทำเป็นหนัง หวังรีเทิร์นวงการหนังสยองญี่ปุ่น กับผลงานล่าสุดของเขาในชื่อ Howling Village
เป็นภาพยนตร์ที่ทำออกมาได้ เกือบดี ภาพรวมนั้นเล่าเรื่องได้น่าสนใจ มีการผูกเงื่อนงำให้ชวนน่าติดตาม มีจังหวะจะโคนความหลอนและตกใจที่ดีงามชวนขนลุก แต่มีปัญหาในตอนจบที่รู้สึกว่าเล่นใหญ่ไปหน่อย และมีช่องโหว่อยู่บางจุด โปรดัคชั่นโดยภาพรวมนั้นทำได้โอเค ไม่ได้เน้นความล้ำมากมาย แต่ก็นำเสนอภาพด้วยเทคนิค
เป็นการเล่าในสไตล์หนังตลาด ผิดไปจากผลงานเก่าๆของลุง ทาคาชิ ชิมิสึ ที่มักจะเข้าใจยากเสมอๆ แต่ดีแล้วล่ะ ไม่ต้องปีนบันไดนั่งดู แล้วมาตีความอะไรให้รกสมอง
ตัวหนังเล่าเรื่องราวแบบตรงไปตรงมา 1..2..3.. ใครทำอะไร ได้ผลลัพท์ยังไงชัดเจนมากๆ ดูแล้วเข้าใจง่ายๆว่าตอนที่ผกก.แกทำ Ju-On เยอะ โดยหนังจะพยายามใช้ Gimmick ของเรื่องเล่าตำนานเมือง มาผสมผสานกับความเชื่อ วัฒนธรรม การเมืองนิดๆ และความน่ากลัวสไตล์หนังสืบสวนสอบสวนชวนดราม่าเล็กๆแบบญี่ปุ่น แม้ว่าในพาร์ทการสืบหาความจริงจะดูอ่อนไปบ้าง แต่ความสนุกของการลำดับเรื่องคืออยู่ในระดับ สนุกใช้ได้ ส่วนนึงก็น่าจะรับเอาแรงบันดาลใจจากคำเล่าลือของพวกวัยรุ่น ที่ชอบไปลองดีกันในสถานที่จริงอย่าง “อุโมงค์อินุนาคิ” ที่ว่ากันว่า ในนั้นมีเสียงโหยหวน เป็นประตูเชื่อมโลกคนตาย และวิญญาณอาฆาตคำสาปที่น่าสะพรึงในแบบญี่ปุ่น เข้าไปแล้วออกมาไม่ได้แบบครบ32เท่าไหร่นัก
ในหนังเต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมชวนอึดอัด โทนสี Mood ของงานภาพต่างๆอันเป็นเอกลักษณ์ของหนังผีสไตล์ทาคาชิ ยังคงอยู่ ้พิ่มการถ่ายสถานที่เซตติ้งผสมกับสถานที่จริงของอุโมงค์อินุนาคิ ก็ทำเอาเสียวสันหลังใช้ได้ โดยไม่ต้องมีผีออกมาเลย แต่ฉากกระตุกจิตกระชากใจ ชวนสะดุ้ง กลับมีน้อยมาก เรียกว่า นานๆมีซักที
ส่วนการออกแบบตัวละครแต่ละตัวในเรื่อง ค่อนข้างมีที่มาที่ไปชัดเจนมากๆหากคุณนั่งดูจนจบ จะขัดใจก็ การแสดงแอคติ้งแบบญี่ปุ่นที่คนดูในไทยบางคนอาจจะรู้สึกว่า เว่อไปมั้ง เอะอะตาโพลงๆ ถลนๆ เล่นใหญ่โวยวายไปตามเรื่อง คนดูไทยเราอาจจะไม่ชินแอคติ้งพวกนี้
อีกจุดคือ ดีไซน์ผีในเรื่อง…โอเค “เราหลุดจากผีแม่ลูกตกถังแป้งฟอกตัวใน Ju-On และหลายๆเรื่องได้สำเร็จ” แต่ในเรื่องนี้ เรากลับได้ฝูงผี+ซอมบี้เข้ามา แถมมีส่วนสำคัญในเนื้อเรื่อง ชนิดที่ว่า ถ้าไม่มี คงหาทางจบไม่ลงด้วย อันนี้ก็รู้สึกว่าใส่บทมาแบบยัดเยียดไปนิด
อ้อ ใช่ๆ งานวิชวล พร๊อพต่างๆ ทำออกมาได้ดีงามผิดคาดมากๆ ไม่คิดว่าโตเอะจะทำพร๊อพซากศพ ซอมบี้สไตล์ได้ดีขนาดนี้มาก่อน นึกว่าทำเป็นแต่หนังแปลงร่างซะอีก
พิเศษสเปเชียลเอฟเฟ็คพื้นฐานได้อย่างดี สมจริง เพลงประกอบก็หลอนใช้ได้ ใครเป็นคอหนังผีญี่ปุ่น ชอบงานของผู้กำกับหนังผีจูออน ชอบฟีลหนังผีญี่ปุ่นหมู่บ้านหลอนๆ ไม่ผิดหวังแน่นอน
และแน่นอนว่า ทาคาฮาชิสไตล์ จะเล่นเรื่องราวเกี่ยวกับ เบื่องหลังโลกทัศน์ของเรื่องราวนั้นๆ ผลลัพท์ และ Time Paradox อย่างที่เคยเล่นมาแล้วใน Ju-On ต้นฉบับ ในเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ไม่ทิ้งลาย ปัญหาเดียวคือ “เดาทางง่ายเกินไปนิดนึง”
โดยรวม เป็นหนังผีที่ไม่ได้ใหม่อะไรนัก กับการเอาตำนานเมืองเรื่องเล่าลี้ลับมาเล่นในงานชิ้นนี้ แต่ถ้าใครเป็นแฟนผลงานลุงทาคาชิ จะรู้สึกว่า
นี่เป็นการก้าวข้ามความติสท์ในการเล่า แล้วเข้าสูตรการเป็นหนังตลาดจริงๆจังๆ ที่ไม่ต้องสะดุ้งตุ้งแช่อะไรนัก
แต่เล่าเรื่องสนุก น่าสนใจ…เหมือนเราฟังเรื่องผีในรายการวิทยุซักเรื่องนึง ที่ครบองค์ประกอบ นั่นก็เพียงพอแล้ว