Exit ฝ่าหมอกพิษ ภารกิจรัก
ภาพยนตร์แนวทริลเลอร์แอคชั่น ดูหนังเอเชีย บนพลอตของมหันตภัยฉับพลัน แก๊สพิษคุกคามเมือง และมีส่วนผสมกับความเป็นคอมมาดี้จัดเต็ม จึงทำให้เป็นความสนุกลุ้นที่แทรกความฮา หนังฟรี ดูง่ายดูเพลิน จนขายดิบขายดีถูกใจมหาชน ยอดตั๋วที่เกาหลีตอนนี้ก็ใกล้ 10 ล้านใบเข้าไปละ นับ ณ ปัจจุบันก็ได้ขึ้นแท่นหนังขายดีอันดับ 3 ของปี 2019 รองจาก Extreme Job และ Parasite ตามลำดับ นอกจากนี้ยังขายลิขสิทธิ์ไปแล้ว 24 ประเทศทั่วโลก
ผลงานการกำกับของผู้กำกับหน้าใหม่อย่าง ลีซังกึน (Lee Sang-Geun) ที่แม้จะไม่มีผลงานหนังดังมาก่อน แต่มาเรื่องแรกก็กล้าเล่นหนังบ้าพลังเอฟเฟกต์ ทั้งยังดึงดาราใหญ่ชั้นนำอย่าง อิม ยุน-อา (Lim Yoona) ดูหนังออนไลน์ ไอดอลจากวง Girl Generation หรือ SNSD ที่ผันตัวมารับงานแสดงจนเด่นเป็นที่ประจักษ์แทนแล้วในช่วงหลัง และด้านพระเอกก็ได้นักแสดงหนุ่มหล่อหน้าทะเล้นอย่าง โจ จอง-ซอก (Cho Jung-Seok) มารับบทนำ ซึ่งทั้งคู่มีจุดร่วมที่เหมือนกันประการหนึ่งคือเป็นคนหน้าตาดีที่เล่นรั่ว ๆ ฮา ๆ ดูหนังฟรี ได้น่ารัก และแม้จะหน้าเหยเกก็ยังสวย/หล่ออยู่ดี ช่างเหมาะเจาะกับหนังแนวรอมคอมเสียจริง ๆ
อียงนัม (รับบทโดย โจจองซอก) เป็นลูกชายคนเล็กของครอบครัวบ้านๆธรรมดาๆ เรียนจบมาหลายปี แต่หางานไม่ได้สักที เลยยังต้องอาศัยอยู่กับพ่อแม่ (รับบทโดย พัคอินฮวาน และ โกดูชิม) ยงนัมปล่อยตัวเป็นคนไม่เอาถ่าน หายใจทิ้งไปวันๆ เพราะทั้งเซ็งทั้งอายความยากความเฟลของชีวิต พี่สาวทุกคนก็ออกเรือนมีครอบครัวไป จองฮยอน (รับบทโดย คิมจียอง) เป็นพี่สาวที่คอยจำจี้จ้ำไชน้องชายมากสุด
ความสามารถเด่นอย่างเดียวที่หนุ่มยงนัมมี แต่ก็ไม่มีใครในครอบครัวเห็นคุณค่าหรอก ก็คือ ความสามารถปีนผา สมัยเรียนเขาเคยอยู่ชมรมปีนผา ฝีมือดี ด้วยสภาพปัจจุบัน เขาทำได้เพียงซ้อมโหนห้อยกับราวบาร์ในสวนสาธารณะแถวบ้านแทน ความภาคภูมิใจในตัวเองก็กำลังถดถอยไปเรื่อยๆ เพราะแม้แต่หลายชายตัวน้อยยังไม่อยากดองญาติ อายที่จะบอกเพื่อนๆว่าคนนี้เป็นอาของเขา
เมื่อครอบครัวอยากฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีให้แม่ จึงไปเช่าห้องจัดงานที่โรงแรม จะได้รวมตัววงศาคณาญาติได้ครบ แม่ซึ่งใช้เวลากับการแนะนำยงนัมให้ผู้ใหญ่ทุกท่านได้รู้จักเผื่อใครจะช่วยหางานให้ได้บ้าง และการสังสรรค์ก็สนุกติดพันไม่เลิกจนดึกเกินเวลา ผู้จัดการคู (รับบทโดย คังกียอง) ลูกชายเจ้าของโรงแรม จึงทำใจดีปล่อยพนักงานกลับบ้าน เหลือเพียงผู้ช่วยผู้จัดการ อึยจู (รับบทโดย ยุนอา) ให้รอปิดจ๊อบส่งแขกห้องสุดท้ายนี่แหละ ด้วยหวังจะได้มีเวลาอยู่ลำพังเพื่อสารภาพรักกับเธอ
อึยจู เป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยเดียวกับยงนัม และอยู่ชมรมปีนผาด้วยกัน สมัยนั้นยงนัมเคยสารภาพรักอึยจู แต่ไม่สำเร็จ เป็นความเศร้าเสียใจที่คาไว้เป็นปมขี้แพ้ในใจ แต่การเจอกันในวันนี้ เขาต้องรักษาหน้าตัวเอง พยายามแกล้งเป็นว่าสบายดี มีงานดี การถูกเธอเทไม่ได้มีผลอะไร ยิ่งเห็นเธอได้ดีเป็นถึงผู้ช่วยผู้จัดการ คงน่าอายแย่ถ้าให้เธอรู้ความจริง
และแล้ว มหันตภัยเมืองก็เกิดขึ้นในคืนนั้น มันคือแก๊สพิษที่ถูกปล่อยออกจากถังที่รถเทรลเลอร์บรรทุกมาจอดทิ้งในบริเวณใกล้เคียง แก๊สลอยล่องอย่างว่องไว กลายเป็นหมอกที่คืบขยายวงขึ้นเรื่อยๆ กินบริเวณทั้งแนวราบและแนวตั้ง หนาทึบปกคลุมเมือง ผู้คนที่อยู่ในตึกจึงได้แต่หนีขึ้นชั้นบนๆ เพราะแก๊สพิษนี้จะทำให้ผิวสัมผัสขึ้นผื่น และซึมเข้าทำลายระบบการทำงานภายในร่างกาย จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
ปฏิบัติการหนีภัยของเหล่าญาติพี่น้องหลากหลายวัยอิรุงตุงนัง ก็ได้อาศัยสกิลปีนไต่ของยงนัม ช่วยจนส่งให้ทุกคนได้ขึ้น ฮ.กู้ภัย แต่ยงนัมและอึยจูยังต้องตกค้างอยู่บนตึก และดิ้นรนหาทางรอดเองในระหว่างรอการช่วยเหลือจากทางการ สกิลที่มีถูกงัดออกมาช่วยกันใช้ป่ายปีน ห้อยโหนโจนทะยานที่ท้าทายมาก เขาและเธอจะเจอกับอะไรบ้างและจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่อย่างไร ต้องไปติดตามดูกันเองเลย
ผลงานที่สนุกตื่นเต้น หายใจไม่ทั่วท้อง นั่งแนบพนักเก้าอี้โรงหนังซะตัวลีบ ด้วยเผลอตัวคิดว่าเราคือยงนัมที่กำลังแนบร่างไปกับผนังอาคารที่แทบจะหาจุดยันปลายเท้าได้ยาก จังหวะที่มือยงนัมจับยึดเกาะอะไรได้ เราก็พลอยยึดเก้าอี้แน่นตามไปด้วย 555 เรื่องนี้เกลี่ยกระจายจุดพีคไว้หลายช่วงมาก บวกการเดินเรื่องที่ไม่สะดุด ไม่ทันจะเบื่อก็หยอดบทหวาดเสียวมาใหม่ให้ลุ้นเอาใจช่วย ชอตต่อชอต ไหลลื่นไปจนจบแบบไม่ทันรู้ตัว
เสน่ห์ที่โดดเด่นของเรื่องนี้ คือ อารมณ์ขัน ที่สามารถวางแทรกไว้เนียนๆ แม้จะเป็นนาทีหน้าสิ่วหน้าขวานก็ตาม เป็นความฮาที่น่ารักบ้าง เซอร์ไพรส์บ้าง ตลกร้ายบ้าง คือทั้งสงสารและขำไปด้วยกัน บทขำก็มาจากหลายๆตัวละคร ช่วยๆกันชง ที่ผู้เขียนชอบมาก ดูแปลกใหม่ได้ใจดี คือ พระนางถูกดีไซน์เป็น ‘ฮีโร่มิติใหม่’ ที่มีความเรียล ธรรมชาติ เป็นคนกล้าที่มีความกลัว ปากบอกเสียสละทั้งๆที่ร้องไห้กลัวตายเหมือนกัน เรียกได้ว่าเป็นภาวะจำใจฮีโร่ ซึ่งทั้ง โจจองซอก และ ยุนอา เล่นบทแบบนี้ได้เกรียนๆน่าเอ็นดูมาก (ยุนอาร้องไห้ได้น่ารักมาก ><) รวมทั้งมุกฮาน่ารักที่คาดไม่ถึง แบบว่าคิดได้ไง เช่น ฉากสร้างสัญญาณของความช่วยเหลือต่างๆที่กลายมาเป็นฉากไฮไลท์ที่กลายเป็นภาพจำให้ผู้ชมอมยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องนี้เลยทีเดียว
อารมณ์ซึ้ง เรียกน้ำตาก็มี ในความรักความผูกพันของคนในครอบครัว ความชื่นใจความฮึกเหิมจากพลังของคนที่ไม่ได้รู้จักกันแต่เอาใจช่วยเต็มแรง เป็นภาพฟิลกู้ดที่น่าประทับใจ
ความน่าสนใจอีกอย่างจากความฉลาดและการเรียนรู้อย่างฉับไวของตัวละคร ตื่นตาตื่นใจกับการหยิบฉวยของรอบตัวที่คาดไม่ถึง มาดัดแปลงใช้เพื่อการเอาตัวรอดในภาวะฉุกเฉิน ความทันสมัยของการหยิบโดรนมาร่วมบทสำคัญของเรื่อง รวมถึงการสร้างวีรกรรมฮีโร่หมู่ รวมพลังกลุ่มสังคมโซเชียล พวก real-time community หรือเหล่านักไลฟ์ เป็นอีกมุมที่พลิกเซอร์ไพรส์ดีเหมือนกัน
ในแง่เนื้อหาก็มีความสมเหตุสมผลในตัวระดับหนึ่ง ซึ่งพอภาพรวมๆดี ดูสนุก เราก็ไม่จำเป็นต้องอยากขุดคุ้ยหาเหตุผลลึกนัก แค่มีที่มาของแก๊สพิษ และมีจุดปลายทางให้แก๊สพิษยุติได้ก็เพียงพอ มีมุมแซะสังคมบ้าง แซมนิดแจมหน่อย เช่น ธุรกิจที่กดขี่พนักงานจนเกิดความกดดัน วิถีการแข่งขันของสำนักข่าว ความดิ้นรนของคนในวัยเรียนจบเข้าสู่การเป็นคนทำงาน เช่นยงนัม ซึ่งเป็นบัณฑิตมาตรฐาน ไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่มีเส้นสาย จึงหาโอกาสได้ยาก (ในเรื่อง ต้องมองข้ามอายุจริงของโจจองซอกไป ผู้เขียนคิดว่าบทในเรื่องคืออายุประมาณ 27-28) รวมไปถึงข้อคิดว่า ในชีวิตจริง ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน สติเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ
ในแง่งานโปรดัคชัน ส่วนใหญ่ก็ดูดีนะ จัดเต็มสเปเชียลเอฟเฟกต์ แต่ก็มีบ้างที่ความสมจริงในบางฉากหย่อนไปนิด เช่นสภาพแรงลมบนยอดตึกสูง ส่วนมุมกล้องหลายฉากดีมาก สร้างจินตนาการเสียวจี๊ดขึ้นสมอง ชวนกลัวความสูงขึ้นมาทันที บวกกับงานซาวน์พาอารมณ์ตื่นเต้นได้ดี
โดยรวมเรียกได้ว่าเป็นหนังที่ตอบโจทย์การชมเพื่อความบันเทิง ให้ความสนุกเกินคาด เพราะความกระชับและลงตัวของทุกองค์ประกอบที่เล่ามา ใครไม่ไปดูนี่คือพลาดเลยนะ
หนังเกาหลีที่มีทั้งความระทึกขวัญ ตลก ดราม่า โรแมนติก แบบครบถ้วน แถมทำออกมาได้บันเทิงแบบจัดเต็ม non-stop เลยจริง ๆ ในช่วงแรกหนังใช้เวลาในการปูเรื่องราวอยู่พักหนึ่ง ตามสไตล์หนังภัยพิบัติที่แนะนำให้เรารู้จักตัวละคร ความสัมพันธ์ระหว่างกัน ปมดราม่า ก่อนจะเข้าช่วงภัยพิบัติเต็มรูปแบบ ในแง่ของดราม่าไม่ได้ถูกขับเน้นออกมามากนัก ด้วยธีมหนังมีความเป็นคอมเมดี้ด้วย หลายประเด็นเลยถูกทิ้งคาไว้ไม่ได้กล่าวถึง
ไม่ว่าจะเรื่องที่ ยงนัม ไม่ทำมาหากินอะไร คนดูก็ไม่รู้สาเหตุหรือหลังจากวิกฤติครั้งนี้แล้ว เขาก้าวข้ามอะไรที่ฉุดรั้งไว้ได้หรือยัง เขาได้อะไรบ้างจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น หนังแทบไม่ได้กล่าวอะไรถึงเลย ในแง่มุมเรื่องราวความรักก็อยู่ในบนพล็อต ความรักที่เกิดขึ้นในสถานการณ์คับขัน หนังแนวใกล้กันที่หยิบมาใช้คงจะเป็นเรื่อง Speed ที่พระนางปิ๊งปั๊งกันเพราะเหตุวิกฤติ แต่หนังก็ยั่วล้อตัวเองในภาคต่อมาว่า ความรักที่เกิดในช่วงเวลาคับขันนั้นมันไม่ยั่งยืน
ส่วนที่ทำได้ดีที่สุดและเอาคนดูอยู่จริง ๆ คือการลุ้นเอาใจช่วยตัวละคร ไม่ว่าจะฉากปีนป่ายเพื่อขึ้นไปอยู่ที่สูง ฉากโดดข้ามตึก การห้อยโหน หนังออกแบบฉากเอาตัวรอดเหล่านี้ออกมาได้ดี สามารถทำให้คนดูนั่งเกร็งลุ้นเอาใจช่วยตัวละครได้ทุกฉาก เคมีระหว่างคู่พระนาง โจจองซอกและยุนอา ก็เข้ากันดี แต่ส่วนใหญ่พาทตลกจะมาจากฝั่งพระเอกเสียมากกว่า ฝั่งสาว ยุนอา จะเป็นเสน่ห์ในแบบฉบับของนางเอกเกาหลีการแสดงที่เล่นกับความ Cute สีหน้า แววตา คำพูด คือในหนังอาจจะไม่ได้มีฉากไหนได้สวยนะ แต่เสน่ห์แบบ Korean Style คือมาเต็มเหมือนเดิม
มองในภาพรวมของหนังถึงสิ่งที่พยายามนำเสนอ ส่วนตัวผมเห็นว่า หนังทำออกมาเพื่อปลอบใจ ให้กำลังใจ คนในแบบที่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่มีความฝัน ไม่มีเป้าหมาย ยังหาแรงบันดาลใจไม่เจอ กับคำว่า “เดี๋ยวทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง” ประโยคที่ ยงนัม ได้ยินซ้ำไปซ้ำมาบ่อย ๆ ที่ญาติพี่น้องต่างให้กำลังใจเขา แม้เขาจะฟังแล้วรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจก็ตาม หนังไม่ได้สร้างตัวละคร ยงนัม เป็นคนไม่เอาอ่าวเอาทะเลเสียทีเดียว เขาก็มีสิ่งที่ชอบและทำได้ดี สามารถงัดเอามันมาใช้ในยามคับขันได้ ยงนัม ถึงได้มีโอกาสสร้างคำว่า “เดี๋ยวทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง” ได้ด้วยตัวเอง
เป็นหนังที่ไปในทางบันเทิงแบบสุดจริง ๆ หนังทั้งสนุก ลุ้นระทึก ตลก คือเป็นหนังที่มีสถานการณ์ชวนตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่อง แต่ดูแล้วไม่มีความตึงเครียดเลย หนังบริหารอารมณ์คนดูได้ดี ใส่มุกตลกสลับเข้ามาได้ตลอด ไม่มีดราม่าชวนลำไย เรียกว่าเป็นหนังเพื่อความบันเทิงอย่างแท้จริง