Better Days ไม่มีวัน ไม่มีฉัน ไม่มีเธอ
ช่วงเวลาสมัยเรียนมัธยม ดูหนังเอเชีย อาจเป็นช่วงเวลาอันแสนสุขสำหรับคนจำนวนมาก แต่สำหรับ เฉินเหนียน (โจวตงหยู) มันไม่ต่างอะไรกับการตกนรกทั้งเป็น เพราะหลังจากเพื่อนสนิทเสียชีวิตโดยมีต้นเหตุมาจากการกลั่นแกล้งในโรงเรียน เธอก็กลายเป็นเป้าหมายใหม่ โดนใครต่อใครทำร้ายทั้งร่างกาย และจิตใจเสมอ หนังฟรี จนกระทั่ง เสี่ยวเป่ย (อี้หยางเชียนสี่) ก้าวเข้ามาในชีวิต
จากภายนอก ดูหนังออนไลน์ เสี่ยวเป่ย อาจดูเป็นผู้ชายแบดบอยมาดร้าย แต่ภายในเขามีจิตใจดีงาม และยังปฏิบัติต่อ เฉินเหนียน อย่างให้เกียรติที่สุด ท่ามกลางผู้คน และสภาพสังคมอันโหดร้าย ดูหนังฟรี การมีเขาอยู่เคียงข้างคือกำลังใจในการใช้ชีวิตอยู่ต่อ พร้อมกับความหวังถึงอนาคตภายหน้าที่ดีกว่าวันนี้
Better Days ออกฉายในอเมริกา พร้อมเสียงวิจารณ์ด้านบวก คะแนนจากเวปรีวิว Rotten Tomatoes 100% เต็ม นักวิจารณ์ฝั่งอเมริกา ต่างพร้อมใจกันยกให้ “โจวตงหยู” และ “อี้หยางเชียนสี่” คือนักแสดงคนสำคัญที่ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เฉินเหนียน (โจวตงหยู จาก Us and Them, Soul Mate) เด็กสาววัยมัธยมที่เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอ ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะทนการถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนไม่ไหว หลังจากเหตุการณ์นั้น เฉินเหนียน ตกเป็นเป้าการกลั่นแกล้งของทุกคนในชั้นเรียน ในคืนหนึ่งระหว่างทางกลับบ้าน เฉินเหนียน ได้ช่วยชีวิต เสี่ยวเป่ย(อี้หยางเชียนสี บอยแบนด์วง TFBOYS) ไว้โดยบังเอิญ ตั้งแต่นั้นมา เสี่ยวเป่ย ก็สัญญาที่จะปกป้องเธอตลอดไป ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
ณ โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง เฉินเหนียน เด็กสาวเรียนดีแต่ไม่ค่อยมีเพื่อนมากนักต้องมาเห็นเพื่อนร่วมห้อง (หูเสี่ยวตี้) ตายไปต่อหน้าต่อตา เฉินเหนียนรู้แก่ใจดีว่าสาเหตุการตายครั้งนี้เป็นเพราะอะไร? หลังจากเสี่ยวตี้ต้องสังเวยชีวิตให้กับพวกหัวรุนแรงในครั้งนี้ พวกมันได้เลือกเหยื่อคนต่อไปนั่นก็คือ เฉินเหนียน พวกมันกลั่นแกล้งทำร้ายและทุบตีเธอบ่อยครั้ง เธอได้พยายามแจ้งปัญหานี้ให้กับตำรวจทราบแต่ก็ไม่เป็นผล เฉินเหนียนทำได้เพียงแค่อดทนเพื่อรอวันสอบเอ็นทรานซ์และได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที ต่อมา เฉินเหนียน บังเอิญได้พบกับชายคนหนึ่ง (เสี่ยวเป่ย) ถูกรุมกระทืบสภาพยับเยินและเธอได้เข้าไปช่วยเหลือเอาไว้ ทั้งคู่จึงได้เริ่มสนิทสนมและกลายเป็นเพื่อนกัน เฉินเหนียน ถูกรังแกจากพวกหัวโจกนับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดเสี่ยวเป่ยจึงออกตัวช่วยเป็นบอดี้การ์ดให้เธอ โศกนาฏกรรมความรุนแรงในโรงเรียนครั้งนี้จะจบลงอย่างไร? และเสี่ยวเป่ยจะปกป้องเฉินเหนียนได้ตลอดรอดฝังหรือไม่
เสี่ยวเป่ย นักเลงหัวไม้มีเรื่องต่อยตีไม่เว้นแต่ละวัน เขานั้นยังเป็นเยาวชนอยู่แต่กลับไม่ได้รับการดูแลและไม่ได้รับการศึกษาตามแบบฉบับของเด็กทั่วไป เขากำพร้าพ่อและถูกแม่ทิ้งไปตั้งแต่อายุ 13 เสี่ยวเป่ยใช้ชีวิตอยู่ในกระท่อมซอมซ่อและทำงานสกปรกเพื่อแลกเงินไว้ประทังชีวิตตัวเอง เขาไม่เคยมีจุดมุ่งหมายในชีวิตแค่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ จนกระทั่งเขาได้พบเฉินเหนียน
เฉินเหนียน นักเรียนเรียนดีแต่โลกส่วนตัวสูง ทักษะการเข้าสังคมของเธอไม่ดีนักเลยไม่ค่อยมีเพื่อน หลังจากเพื่อนร่วมห้องของเธอต้องสังเวยชีวิตให้กับการถูกแกล้งเธอคือเป้าหมายรายต่อไปของกลุ่มหัวโจก พวกมันตามราวีเธออย่างไม่ลดละ กลั่นแกล้งและทำร้ายทุบตีเธอสารพัด
หนังสะท้อนปัญหาวัยรุ่น เรื่องราวการบูลลี่ในโรงเรียนมัธยมจีน แสดงให้เห็นถึงความโดดเดี่ยวในการต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่หนักหนาสาหัสเกินวัยที่จะแบกรับไหว นำแสดงโดยนักแสดงมากฝีมือ อย่าง อี้หยางเชียนสี่ และ โจวตงหยู และยังผ่านเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม บนเวที ออสการ์ (Oscar) ครั้งที่ 93 มาแล้วด้วย
หากจะย้อนกลับไปยังวัยทีนเอจ ภาพจำหนึ่งที่คนเราส่วนใหญ่นึกถึงก็คือ มันเป็นห้วงเวลาที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและการก้าวข้ามผ่านหลายสิ่งอย่างในชีวิต ในวันที่ทุกอย่างยังไม่ประสีประสา ในวันที่ดูเหมือนเรายังต้องพึ่งสัญชาตญาณมากกว่าประสบการณ์ เด็กหลายคนมองเห็นภาพตัวเองมีความสุข รอยยิ้มกับเพื่อน สนุกสนานไปวัน ๆ แต่อีกด้านหนึ่ง มันก็มีเด็กบางคนที่ต้องผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาด้วยความทุกข์ทรมาน ความเจ็บปวดและรอยแผลของการถูกทำร้ายอาจมีอิทธิพลต่อชีวิตของเด็กคนนั้นไปตลอดกาล เรากำลังพูดถึง Better Days หนังโรแมนติกดราม่าสัญชาติจีนที่จับประเด็นของความหยาบกร้านของชีวิตวัยรุ่นในสังคมแดนมังกร ซึ่งเติบโตมาท่ามกลางการแข่งขันและความคาดหวังที่หนักหน่วง โดยเฉพาะหนุ่มสาวมัธยมปลายที่ต้องเตรียมตัวสอบ ‘เกาเข่า’ (Gaokao) การสอบเอนทรานซ์ครั้งใหญ่ที่ไม่ต่างจากการเป็นบททดสอบเดิมพันชะตาชีวิตต่อจากนี้ แต่สำหรับ เฉินเหนียน (โจวตงหยู) เธอต้องเผชิญกับโจทย์ข้อสอบอันหนักอึ้งกว่าเด็กทั่วไป เพราะเพื่อนสนิทหนึ่งเดียวของเธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย และเธอกลายเป็นเป้าการถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนร่วมชั้นทุกคน และสำหรับ เฉินเหนียน โรงเรียนคือขุมนรก ที่ไม่มีใครที่ไหนเอื้อมมือมาช่วยเหลือเธอได้
Better Days สร้างมาจากนิยายจีนดัง In His Youth, In Her Beauty ของ จิ่วเยวียซี ที่มีเส้นเรื่องหลักอยู่ที่เรื่องราวการถูก bully ในโรงเรียน และความรักที่เข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของคนหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ซึ่งคนดูจะสามารถสัมผัสได้เลยจากบรรยากาศในหนังเรื่องนี้ที่จับประเด็นหนัก ๆ มาบดขยี้แรง ๆ ตั้งแต่เรื่องการ bully ในโรงเรียน, การสอบแข่งขัน จนถึงแทงทะลุถึงหัวใจไปยังกระทรวงศึกษาธิการที่ล้วนแล้วแต่มีส่วนร่วมกันสร้าง ‘ปีศาจ’ ในตัวเด็กขึ้นมาในสังคมโดยที่ผู้ใหญ่เหล่านั้นไม่เคยตระหนัก เฉินเหนียน เป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าตาใสซื่อ แต่เป็นเด็กหัวดีเรียนเก่ง ท่ามกลางความโหดร้ายของสังคมที่เธอต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นการถูกแกล้งจากเพื่อน, พ่อแม่แยกทาง แม่ต้องร่อนเร่ขายของผิดกฏหมายและหนีเจ้าหนี้จนไม่ค่อยได้กลับบ้าน ขณะที่ชีวิตของเฉินเหนียนดูจะเดินไปถึงจุดตกต่ำที่สุด เธอก็ได้พบกับ เสี่ยวเป่ย (อี้หยางเชียนสี่) เด็กหนุ่มแก๊งอันธพาลไร้อนาคตที่เข้ามาช่วยชีวิตเธอจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
หนังพาคนดูสำรวจตัวละครแบบพาทัวร์เข้าไปได้ถึงแก่นของความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่าของเฉินเหนียน แถมแทรกปัญหาชีวิตขม ๆ เข้ามาอีกเป็นระยะ บวกกับอินเนอร์ของ โจวตงหยู ที่อาจบอกได้ว่าเป็นหนึ่งในหนังที่เธอกลั่นอารมณ์ออกมาได้อย่างสุดยอดอย่างแท้จริง การพลิกมาเล่นบทเด็กสาววัย 17 ที่ต้องแบกปัญหาทุกอย่างไว้ เธอทำมันออกมาได้ไร้ที่ติมาก ๆ ระดับมาสเตอร์พีช บอกได้เลยว่านี่เป็นตัวละครที่สร้างความเรียลให้หนังเรื่องนี้ และยกระดับหนังไปอีกขั้นจริง ๆ ซึ่งยิ่งดูเราจะยิ่งหดหู่ไปกับโชคชะตาอันรันทด แล้วตัวเลือกของเด็กที่ยังไม่ประสีประสาโลก มันยิ่งดูมืดแปดด้านไปหมด แต่ระหว่างที่หนังเดินไป การปรากฏตัวของ เสี่ยวเป่ย สร้างมิติให้หนังฉีกไปยังจุดหักเหได้ลงตัว และโดยเฉพาะการมารับบทหนัก ๆ แบบนี้ครั้งแรก ก็ต้องยอมรับว่าไอ้หนุ่ม อี้หยางเชียนสี่ เป็นเด็กมีของมาก ๆ เลย โดยเฉพาะสีหน้าแววตาที่มุ่งมั่น ซีนดราม่าแรง ๆ สามารถบดกับ โจวตงหยู ได้ไม่ดร็อปเลย
เป็นหนึ่งในหนังที่ทำหน้าที่วิพากษ์ประเด็นหลัก ๆ สะท้อนสังคมจีนได้ดีมาก ๆ เรื่องหนึ่ง ผมชอบบรรยากาศของความไม่โลกสวยในหนังเรื่องนี้ มีกลิ่นอายคล้ายแนวทางของหนังฮ่องกงในยุค 90s แม้ว่าจะมีบางช่วงที่ออกอาการเนือยไปบ้าง เหมือนยืดเรื่องไปบ้าง แต่พอเริ่มปรับตัวได้ หนังกลับยิ่งสะท้อนสภาวะจิตใจของตัวละครแต่ละฝ่ายให้เห็นด้านเทา ๆ กันมากขึ้น จนรู้สึกตัวอีกที หนังก็พาเรามายังจุดที่เราไม่คิดว่าจะมาถึงได้ มีความกลับตาลปัตร พลิกผัน หักมุมเล็ก ๆ หลอกล่อมีชั้นเชิง คาดเดายากขึ้นเรื่อย ๆ สร้างสถานการณ์และบรรยากาศที่ไม่น่าไว้ใจออกมาได้เป็นระยะ แต่มีสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นท่ามกลางความหม่นหมองของหนัง ก็คือเคมีของคู่พระนาง กับพาร์ตโรแมนติกแบบหวานขม ที่ยิ้มทั้งน้ำตาให้กับชะตาชีวิต แต่ก็ดิ้นรนหาทางแก้ปัญหาหน้างานตามมีตามเกิดแบบเด็กวัยรุ่น ไม่แปลกเลยที่ใคร ๆ บางคนดูแล้วแอบนึกถึง อาหัว กับ โจโจ้ ในผู้หญิงข้าใครอย่าแตะอยู่บ้าง
เมสเซจของหนังชัดเจนและทรงพลัง โดยเฉพาะคำพูดของ เฉินเหนียน ที่บอกว่า “มีแต่คนบอกจะช่วยฉัน แล้วใครบ้างล่ะที่ช่วยฉันจริง ๆ” ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความโดดเดี่ยวในการต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่หนักหนาสาหัสเกินวัยจะแบกรับไหว พร้อมจิกกัดคนที่เกี่ยวข้องแต่กลับมองปัญหานี้จิ๊บจ๊อยไม่เหมือนคำคุยโวสวยหรู แต่ขณะเดียวกันหนังก็เสนอแนวทางให้ทุกฝ่ายลุกขึ้นมาแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ในภาพรวมแล้วนี่อาจเป็นหนังที่สร้าง impact ให้สังคมจีนได้มากที่สุดเรื่องหนึ่ง, เป็นหนัง coming of age ที่ทรงพลัง
เรื่องนี้คือดีมาก ๆ เป็นหนังในดวงใจอีกเรื่องหนึ่งของเราเลย องค์ประกอบโดยรวมทุกอย่างคือสมบูรณ์แบบ 100% บทของเรื่องถึงแม้จะเป็นเรื่องราวของวัยรุ่นแต่เอาจริง ๆ แล้วผู้ใหญ่วัยคุณพ่อคุณแม่ควรดูมาก ๆ ถ้าได้ดูแล้วท่านใดที่มีบุตรหลานกำลังเผชิญกับปัญหานี้จะได้เข้าใจเด็กและได้เปิดโลกทัศน์ของท่านด้วย XiaoJay นั้นไม่เคยพบเจอปัญหาการถูกแกล้งแต่พอจะได้เห็นจากสังคมแวดล้อมมาบ้าง การที่บทเขียนให้เฉินเหนียนแจ้งตำรวจไปแล้วแต่ไม่มีใครสามารถช่วยได้พล็อตแบบนี้มันมีจริง ๆ ในสังคมค่ะอย่าคิดว่ามีแค่ในหนังเท่านั้นเพราะผู้ใหญ่มักจะเพิกเฉยและมองว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เด็ก ๆ จะแกล้งกัน พอมาถึงจุดที่สูญเสียมันไม่สามารถเอากลับคืนมาได้อีกแล้ววันนั้นแหล่ะค่ะผู้ใหญ่ถึงจะเข้าใจว่ามันไม่ใช่แค่แกล้งกันเล่น ๆ นอกจากเนื้อเรื่องจะสะท้อนถึงปัญหาความรุนแรงในสถานศึกษาแล้วยังมีประเด็นการเลี้ยงดูบุตรในครอบครัวและประเด็นเด็กเยาวชนที่ถูกพ่อแม่ทิ้งให้ใช้ชีวิตเองลำพังอีกด้วย ส่วนในเรื่องของนักแสดงนำทั้งสองท่านถือว่าฝีมือการแสดงสมบทบาทมากและขอชื่นชมนักแสดงบทร้ายด้วยนะคะที่แสดงได้สมจริง ชนิดที่ว่าร้ายจน XiaoJay อินจัดกัดฟันดังกรอดเลย