What's happening?

Video Sources 1257 Views Report Error

  • Watch trailer
  • Morbius (2022) มอร์เบียส
Morbius (2022) มอร์เบียส

Morbius (2022) มอร์เบียส

USAnull Min.PG-13
Your rating: 0
7 1 vote

Synopsis

Morbius มอร์เบียส

เรียกได้ว่ารอบปีทีผ่านมานี้เป็นปีที่ดีดจัด ๆ ทั้งของ Sony และ Columbia Pictures ก็ว่าได้ครับ เพราะที่ผ่านมาในรอบไม่ถึงครึ่งปี กลับมีหนังจากจักรวาล Spider-Man ให้ได้ดูถึง 3 เรื่องแน่ะ ทั้งภาคต่อปีศาจวีนอมใน ‘Venom: Let There Be Carnage’ (2021) หนังปิดไตรภาคสไปเดอร์-แมนใน ‘Spider-Man : No Way Home’ (2021) ดูหนัง

Morbius มอร์เบียส

ดูหนังบู๊ ที่สร้างความกรี๊ดกร๊าดประทับใจคนดู จนกลายเป็นภาพยนตร์ที่กวาดรายได้สูงสุดในช่วงโควิด-19 ไปแล้ว ณ ตอนนี้

รวมทั้ง หนังฟรี ‘Morbius’ (มอร์เบียส) เรืื่องนี้นี่แหละครับ ที่เลื่อนตารางฉายหนีพี่โควิด-19 มานานเกือบจะหนึ่งปี ในที่สุด โซนี่ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวฮีโรวายร้ายตัวใหม่ เจ้าของฉายา หนังใหม่ ‘แวมไพร์ที่มีชีวิต’ (The Living Vampire) ซึ่งจริง ๆ แล้ว มอร์เบียสเองเคยเกือบจะได้เป็นวายร้ายในภาพยนตร์ฮีโรครึ่งมนุษย์ครึ่งแวมไพร์ ‘Blade 2’ (2002) เวอร์ชันเฮีย ‘เวสลีย์ สไนปส์’ (Wesley Snipes) แล้วด้วยนะ ดูหนัง แต่ว่าพอมีการเปลี่ยนตัวผู้กำกับกะทันหัน แวมไพร์ตนนี้ก็เลยถูกดองยาว ไม่ได้แจ้งเกิดบนแผ่นฟิล์มเสียที

Morbius มอร์เบียส

ดูหนังออนไลน์ จนมาถึงปีนี้แหละ ที่โซนี่เลือกหยิบฮีโรวายร้ายตัวนี้มาสร้างเพื่อสานต่อแนวทางแอนตีฮีโร (และผู้เขียนก็เดาเองว่า น่าจะเป็นการปลุกปั้นทีม Sinister Six 6 วายร้ายจักรวาลสไปเดอร์-แมน ในอนาคตแหง ๆ ) และได้ผู้กำกับที่เป็นแฟนการ์ตูน ดูหนังฟรี Marvel อย่าง ‘แดเนียล เอสปิโนซา’ (Daniel Espinosa) ดูหนัง ที่เคยกำกับภาพยนตร์ ‘Life’ (2017) และ ‘Safe House’ (2012) มาร่วมกำกับภาพยนตร์ฮีโรแวมไพร์ตัวแรกของจักรวาลสไปเดอร์-แมนด้วย ดูหนังออนไลน์

เนื้อเรื่องว่าด้วยเรื่องของ ‘ดร.ไมเคิล มอร์เบียส’ (Jared Leto) นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการป่วยด้วยโรคเลือดมาตั้งแต่ยังเด็ก เขามีเป้าหมายที่จะค้นคว้าหาวิธีในการสร้างยาที่จะรักษาตัวเอง และเพื่อนร่วมโรคอย่าง ‘ไมโล / ลูเซียส คราวน์’ (Matt Smith) ให้หายจากโรคหายากนี้เสียที โดยมีนักวิทยาศาสตร์สาวคู่รักอย่าง

‘ดร. มาร์ทีน แบนครอฟตฺ์’ (Adria Arjona) เป็นผู้ช่วยเหลือ แต่ในระหว่างที่เขากำลังทำการรักษาโดยใช้ค้างคาว เขากลับพบว่าตัวเองกลายเป็นปีศาจแวมไพร์กระหายเลือด เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อควบคุมความบ้าคลั่งของตนเองให้จงได้

Morbius มอร์เบียส

พล็อตเรื่อง

คือเอาจริง ๆ ก็ต้องยอมรับว่า เสียงวิจารณ์ในแง่ลบจากต่างประเทศต่อหนังเรื่องนี้มันช่างหนาหูเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะ 2 จุดที่นักรีวิวต่างประเทศส่วนใหญ่ที่รุมโจมตีหนังเรื่องนี้กันแบบสามัคคีก็คือ บทที่มีปัญหา กับซีจีงานหยาบ ผู้เขียนเองแม้จะพยายามปิดหูปิดตา และพยายามคิดว่า มันก็คงอีหรอบเดียวกับ Venom นั่นแหละ คือดูเอาแอ็กชันและตลกแบบกาว ๆ พอได้ จะหวังให้ Hype ประทับใจเหมือนสไปเดอร์-แมนที่ฉายปลายปีที่แล้วคงจะยากเกินฝันไปหน่อย

เอาอย่างแรกก่อนครับ เรื่องซีจี เอาจริงแล้วซีจีหนังเรื่องนี้ ผู้เขียนเองก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันงานหยาบอะไรถึงขนาดนั้นนะเอาจริง ๆ ในแง่โปรดักชันโดยรวม ๆ ทั้งการถ่ายภาพ มุมกล้อง แม้ผู้เขียนเองจะแอบรำคาญออราม่วง ๆ

ตอนที่มอร์เบียสกำลังแปลงกาย (ที่ผู้กำกับบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากโปเกมอน!) อยู่บ้างก็ตาม คือมันดูลายตาน่ะครับ ยิ่งออราออกมาเยอะยิ่งลายตาหนักเลย แต่ซีจี โปรดักชัน และฉากแอ็กชันโดยรวมก็ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานหนังฮีโรยุคนี้ ไม่ได้มีจุดไหนงานหยาบจนถึงขั้นทุเรศทุรัง

Morbius มอร์เบียส

ส่วนในแง่ของพล็อตและบท เอาจริง ๆ ผู้เขียนออกจะชอบตัวพล็อตของหนังนะครับ เพราะตัวพล็อตสามารถดึงเอาแกนจากต้นฉบับคอมิก ที่วางให้มอร์เบียส ไม่ได้เป็นฮีโรที่ต้องออกไปต่อสู้ปกป้องโลก เน้นแอ็กชันแพรวพราวเหมือนฮีโรตัวอื่น ๆ แต่เป็นหนังฮีโรที่เน้นดราม่าสู้ชีวิต (แต่ชีวิตสู้กลับ) ต้องต่อสู้กับโรคร้ายและจิตใจด้านมืดของตัวเอง

ที่สามารถเปลี่ยนจากคุณหมอผู้อ่อนโยน กลายเป็นปีศาจสุดน่ากลัวได้ทุกเมื่อ เป็นพล็อตการต่อสู้เล็ก ๆ ที่ถือว่าโอเคเลยแหละ แต่สุดท้ายตัวบทเองนี่แหละครับที่มีปัญหาอย่างแรง อย่างที่สื่อต่างประเทศเขารีวิวกันนั่นแหละ

หนังฮีโร่วายร้ายในรูปแบบสยองขวัญ

แม้การเดินเรื่องของพล็อตจะพยายามเดินเรื่องด้วยรูปแบบหนังสยองขวัญ ที่ต้องชมว่าทำได้ออกมาสยองขวัญจริง ๆ แต่ปัญหาน่าหนักใจเกี่ยวกับบทก็คือ มันเชยและทื่อสุด ๆ ครับ แม้ว่าพล็อตและสตอรีของตัวละครจะน่าสนใจ แต่การดำเนินเรื่องกลับเชยราวกับเป็นหนังฮีโรเมื่อ 20 ปีที่แล้วอย่างไรก็อย่างนั้นเลย คือแทบจะเดินเรื่องเป็นเส้นตรง

และใช้สูตร “ต้นกำเนิดฮีโร” (มีปัญหาชีวิต/ค้นพบพลังโดยบังเอิญ/ควบคุมพลังไม่ค่อยได้/ต้องต่อสู้เหล่าร้าย) กันแบบโต้ง ๆ เลยก็ว่าได้ ซึ่งมันทำให้ตัวหนังเล่าเรื่องได้ออกมาทั้งเชย ทื่อ ไร้เสน่ห์ เดาเรื่องง่ายตั้งแต่องก์แรก และไม่มีความ Hype ใด ๆ เหมือนอย่างที่หนังฮีโรยุคนี้มีกัน แถมมุก Easter Egg ที่ใส่มาก็ดันไม่ค่อยขำซะงั้น

ความเลวร้ายอีกจุดของบทก็คือ การไม่ได้ให้น้ำหนักกับเรื่องราวเอาไว้อย่างเพียงพอจริง ๆ มันก็เลยกลายเป็นว่า การดำเนินเรื่องดูจะไม่ได้ทิ้งปมประเด็นอะไรไว้อย่างชัดเจนนัก จะเล่าเรื่องการต่อสู้กับปีศาจภายในใจตัวเอง หรือเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของมอร์เบียส มาร์ทีน และไมโล ก็ดูจะไม่ลงลึกเท่าไหร่ การปูเรื่องพลังพิเศษของมอร์เบียสก็ยังไม่รอบด้านดี (อยู่ดี ๆ ก็มีพลังแปลก ๆ ที่ไม่รู้จักโผล่มาท้ายเรื่อง)

ตรรกะในการเลือกสังหารคนของมอร์เบียสก็ดูงง ๆ การใส่ฉากที่ไม่รู้จะใส่มาทำไม แถมเป้าหมายและแรงจูงใจของตัวละครก็ดันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเมื่อเข้าช่วงไคลแม็กซ์ในองก์สุดท้ายไปเสียอีก กลายเป็นว่าตัวหนังเล่าอะไรได้ไม่สุดสักอย่าง และตัดจบแบบดื้อ ๆ เลย จนพาให้งงว่า ตกลงพี่บ่าวจะเอาอะไรนิ แถมยังพาให้แกนหลักของหนังที่อุตส่าห์วางไว้อย่างดี พังพินาศยับเยินอีกต่างหาก

Morbius มอร์เบียส

ถ้าจะมีจุดให้ชื่นชมอยู่บ้าง ก็ต้องชื่นชมนักแสดงหลักทั้ง ส่วน ‘แมตต์ สมิธ’ (Matt Smith) ผู้รับบท ‘ไมโล / ลูเซียส คราวน์’ ก็ถือว่าแสดงได้เข้ากับคาแรกเตอร์แบดบอยดีไม่หยอก และ ‘จาเรต เลโต’ (Jared Leto) เจ้าของบท ‘มอร์เบียส’ นี่แหละครับ ที่รับหน้าแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้แบบหลังแอ่น ด้วยคาแรกเตอร์ที่เข้าถึงมาก ๆ

ทั้งตอนเป็นคุณหมอผู้อ่อนโยน และเป็นแวมไพร์ได้อย่างน่ากลัว ที่พอจะพาให้หนังยังพอดูได้แบบเพลิน ๆ

ซึ่งการแบกแบบหลังแทบหัก ทั้ง ๆ ที่บทป่วยขนาดนี้ ก็แอบสงสารพี่จาเร็ตเหมือนกันนะครับ เป็น ‘Joker’ ในจักรวาล DC (‘Suicide Squad’ (2016)) ก็ไม่ได้แจ้งเกิด (จนต้องกลายมาเป็นภาพประกอบคำคม) พอข้ามมาอยู่ Marvel กะว่าจะมาเปิดตัวแบบเต็ม ๆ ก็กลับโดนบททำร้ายซะเละเทะ แพ้ทางหนังฮีโรแท้ ๆ เลย

ความน่าสนใจของตัวละคร

‘Morbius’ จะมีคาแรกเตอร์และพล็อตที่น่าสนใจ แต่สุดท้ายตัวบทนี่แหละที่ทำให้ตัวหนังทั้งเชยและขาดเสน่ห์ จนดูเหมือนว่าจะไม่สามารถสร้างเอกลักษณ์ และวางที่ทางของตัวเองในจักรวาลสไปเดอร์-แมนได้สำเร็จ บทป่วย ๆ ทำให้หนังกลายเป็นเพียงหนังซูเปอร์ฮีโรแบบ Old School ที่ถอดคาแรกเตอร์จากคอมิก แล้วก็เล่าเรื่องตามสูตรแบบเด๊ะ ๆ โดยที่ไม่ได้เพิ่มมิติให้กับตัวละคร สอดแทรกประเด็นซีเรียสเหมือนหนังฮีโรยุคปัจจุบัน หรือเพิ่มเสน่ห์เฉพาะตัวให้มีความน่าจดจำได้สักเท่าไหร่

ถ้าจะดูหนังเรื่องนี้ในฐานะหนังแอ็กชันฮีโรเพลิน ๆ ตะลุยดะไปเรื่อย ๆ แบบไม่ต้องคาดหวังอะไรมาก ก็ถือว่าพอจะถูไถได้อยู่ล่ะนะครับ แต่ถ้าคุณผู้อ่านเป็นคนที่อินกับความเป็น Marvel และอยากดูเพื่อเชื่อมจักรวาลสไปเดอร์-แมน ซึ่งอันที่จริงมันก็พอจะเชื่อมได้

Original title Morbius (2022) มอร์เบียส
IMDb Rating 6.093 183 votes
TMDb Rating 263 215 votes

Director

Director

Cast

Similar titles

The Fable: The Killer Who Doesnt Kill (2021) โหดไม่ถามชื่อ 2
Strange Nature ( Strange Nature )
Rogue (2020)
Rambo 3 ( แรมโบ้ นักรบเดนตาย 3 )
Vacation Friends (2021)
Shock Wave 2 (2020) คนคมล่าระเบิดเมือง 2
Role Play โรลเพลย์ สวมรอยมารัก (2023)
Don’t Let Go (2019) อย่าให้รอด
Iceman 2 The Time Traveler ไอซ์แมน 2
American Hangman อเมริกัน แฮงแมน
The Gray Man ล่องหนฆ่า
Ready or Not เกมพร้อมตาย

Leave a comment