
ปฏิบัติการกู้หวย The Lost Lotteries
อีกหนึ่งหนังไทยที่เป็นออริจินัลจากสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลของบ้านเรา ดูหนังตลก ที่คราวนี้หันมาหยิบจับแนวหนังที่ได้รับความนิยมตลอดกาลของคนไทย อีกทั้งยังจับเอาวัฒนธรรมการเสี่ยงโชคที่คนไทยทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีมาผนวกเข้ากับเนื้อหา และยังกลายมาเป็นที่มาของ หนังฟรี “ปฏิบัติการกู้หวย “ หนังตลกเรื่องล่าสุดที่เป็นการผนึกกำลังของทีมผู้สร้างและทีมนักแสดงชุดดรีมทีมมาโชว์ศักยภาพอย่างเด็ดดวง
หนังไทยจากงานสร้างเน็ตฟลิกซ์เองที่หันมาทำแนวตลกไทยตีหัวเข้าบ้านด้วยบทง่ายๆ เขียนกันขึ้นแบบลวกๆ เน้นยิงมุกควายเยอะเรี่ยราด ดูหนังออนไลน์ ขำบ้างฝืดบ้าง ดราม่าก็ใส่มาพอแปะๆ ให้พยายามซึ้งมีแง่คิด แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรให้ประทับใจ ภารกิจไม่มีความลุ้น พระเอกนางเอกจืดจาง ดูหนังฟรี ตัวละครสมทบอย่างแพทกับสมจิตรดูมีอะไรมากกว่า เป็นหนังที่เน็ตฟลิกซ์กะทำมาทดสอบขายคนดูแนวนี้ที่มีจำนวนมากแต่ไม่ได้ไปดูโรง ซึ่งดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ แล้วแต่รสนิยม
หนังตลก Netflix กับภารกิจโคตรปั่นของเหล่าคนกระจอกทั้งห้า ที่หาญกล้าวางแผนชิงลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 กลับคืนจากแก๊งมาเฟียตัวเอ้ โดยผู้กำกับ ไบค์แมน
ภารกิจโคตรปั่นของเหล่าคนกระจอกทั้งห้า ประกอบด้วย เต, บีท, โซ่, คุ้ง และ เหวิ่น ที่หาญกล้าวางแผนชิงลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 กลับคืนจากแก๊งมาเฟียตัวเอ้ ความฮาสุดวายป่วงจึงเกิดขึ้นพร้อมกับดงกระสุนและกองระเบิดที่ปลิวว่อนเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการ!
เปิดเรื่องมา เต (รับบทโดย สกาย วงศ์รวี) จะเล่าเรื่องราวเพื่อแนะนำให้เรารู้จักตัวเขา (break the wall) … เตเป็นเด็กบริหารปีสี่ ที่มีความฝันสั้น ๆ ง่าย ๆ คืออยากรวย เพื่อจะหนีความจริงที่เฮงซวยอย่างที่เป็นอยู่ เตบอกว่าจริง ๆ แล้วเขาอยู่ใกล้ความฝันที่ว่านั้นมาก ความฝันที่เขาเรียกว่า “ความฝันแบบ 16 วันครั้ง” เพราะเขาคือคนขายหวย
แม่ต้อย (รับบทโดย ปาน ธนพร) เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อทิ้งแม่ไปตั้งแต่เตยังอยู่ในท้อง แม่ตรอมใจจัดจึงซัดน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าไปสองขวดใหญ่ กะว่าตายประชดชีวิตห่วย ๆ นี้ไปซะ แต่คนมันจะบ้งอะนะ มันก็จะบ้งไปซะทุกเรื่อง แม่ต้อยที่คิดว่าตัวเองตายไปแล้วกลับตื่นขึ้นมาที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าที่เธอกินไปน่ะขวดแรกเป็นกรดอีกขวดเป็นด่าง ทำให้ไปรวมกันเป็นกลางในกระเพาะ นอกจากจะไม่ตายแล้วยังได้ของแถมเป็นลูกชายมาอีกคน
แต่แม่ก็คือแม่ เพียงได้เห็นหน้าลูกน้อยครั้งแรกความคิดอยากตายก็หายไปทันที แม่ต้อยย้ายจากหนองคายมาเป็นแม่ค้าขายลอตเตอรี่ในกรุงเทพฯ แถวสี่พระยา นับแต่นั้นชีวิตสองแม่ลูกก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ จนมีบ้านเป็นของตัวเอง แม้จะเป็นบ้านซอมซ่อประมาณประตูหลุดหลังคารั่วก็เถอะ
ณ จุดนี้ ชะตาชีวิตสองแม่ลูกก็พลิกผันอีกครั้ง แม่ต้อยเดินตกท่อ กทม. สะโพกเคลื่อน จนต้องเปลี่ยนมารับจ้างเย็บผ้าโหลอยู่ที่บ้านแทน ส่วนเตก็มาขายลอตเตอรี่ ที่เขาเรียกว่า “ธุรกิจแห่งความฝัน” แทนแม่ อาศัยเวลาหลังเลิกเรียนและวันหยุด … สิ่งที่เตทำเป็นประจำก็คือการเก็บลอตเตอรี่เอาไปสำหรับตัวเองหนึ่งใบเสมอ และหวังว่าความฝันนั้นจะกลายเป็นจริงสักวัน
วันนั้น เตกลับจากออกไปขายหวย ไอ้อันธพาลอ้วนผอมหน้าโง่สองคนมาทวงเงินกู้นอกระบบจากแม่ที่ค้างจ่ายมาสามเดือน จังหวะนั้นแม่ตะโกนบอกให้เตหนีไป เตจึงซัดสี่คูณร้อยตีนแตก แต่สุดท้ายก็วิ่งไปเจอทางตัน ไอ้อันธพาลอ้วนผอมวิ่งตามมาทันจึงชักมีดพกออกมาแล้วก็พูดขึ้นว่า “บ้านมึงแม่งไม่มีของมีค่าอะไรสักอย่าง” จากนั้นมันก็กระชากกระเป๋าลอตเตอรี่จากมือของเตไป
ความซวยยังไม่จบอยู่แค่นั้น ลอตเตอรี่ใบที่เตเก็บไว้ดันถูกรางวัลที่หนึ่ง 6 ล้าน แต่มันไม่มีแล้วไงเพราะไอ้อันธพาลอ้วนผอมเอาไปแล้ว ไม่เท่านั้นนะ ยังมีลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่หนึ่งอีกสี่ใบของลูกค้าสี่คนที่สั่งซื้อทางออนไลน์อยู่ในนั้นด้วย รวมทั้งหมด 30 ล้านบาท !
หลังหวยออก ลูกค้าทั้งสี่ก็มาออกันที่บ้านเตอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย
แน่นอนว่าทั้งลายเส้นและจังหวะการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ ลอยโชยมาแต่ไกลว่าเป็นฝีไม้ลายมือของ “พฤกษ์ เอมะรุจิ” ผู้กำกับหนังฮาเป็นหนึ่งของวงการหนังแห่งยุค เขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ อีเรียมซิ่ง และ ไบค์แมน ทั้ง 2 ภาค และเร็ว ๆ นี้ก็กำลังจะปังใน บัวผัน ฟันยับ ซึ่งหนังแบบ The Lost Lotteries ถือว่าเป็นหนังแนวถนัดของเขาเป็นแน่แท้ และรู้ดีว่าคอหนังชาวไทยต้องการอะไร แต่มันอาจจะยังไม่พอที่จะขึ้นไปสู่ระดับสากล
หนังมาพร้อมกับสูตรสำเร็จแบบเดิม ๆ ของหนังไทย รวมทั้งจุดอ่อนเดิม ๆ ของหนังไทยเช่นเดียวกัน บทหนังก็ยังเป็นจุดอ่อนของหนังเหมือนเคย เหมือนหนังเรื่องก่อน ๆ ของผู้กำกับตุ๋ยผู้นี้ ที่มักจะไม่ค่อยเน้นในส่วนของบทหนังสักเท่าไหร่ แต่หนังของเขามักจะได้พรสวรรค์จากทีมนักแสดงมาช่วยพยุงเรื่องราวเอาไว้ได้แบบโชคช่วย นั่นเป็นองค์ประกอบที่ช่วยทำให้หนังไปรอด
ถ้าหากว่าเป็นสเกลหนังตลกไทยทั่วไปแล้วนั้น ก็จะถือว่าเป็นไทนหนังที่สร้างความบันเทิงได้ดี แต่หากจะให้ลงรายละเอียดในเชิงลึกลงไปในระดับความเป็นสากลแบบที่หนังได้มีโอกาสได้ลงจอฉายไปทั่วโลกแล้วนั้น ปรากฏว่า ปฏิบัติการกู้หวย The Lost Lotteries ค่อนข้างเป็นหนังตลกที่ค่อนข้างไม่ตลกเท่าไหร่ เพราะเพียงแค่นักแสดงเพียงลำพังไม่สามารถจะช่วยอะไรไว้ได้ คนไทยรู้จักดีแต่คนที่อื่น ๆ ไม่ได้คุ้นเคยด้วย
เพราะด้วยว่าเป็นพล็อตและโครงเรื่องของหนังยังไม่ค่อยมีความเป็นสากลสักเท่าไหร่ อีกทั้งจังหวะการเล่าเรื่องยังค่อนข้างสวิงขึ้น ๆ ลง ๆ ไปมาอยู่หลายช่วง ประเดี๋ยวก็จริงจัง ประเดี๋ยวก็ขบขัน ทำให้การร้อยเรียงอารมณ์ของหนังนั้นค่อนข้างดูประหลาดและไม่ค่อยต่อเนื่องกันสักเท่าไหร่ อีกทั้งจังหวะการเล่าเรื่องของหนังนั้นยังไม่ได้ชวนติดตามอะไรขนาดนั้น ทุกอย่างเป็นสูตรสำเร็จที่ไม่มีอะไรใหม่ และยังไม่มีอะไรโดดเด่นสักเท่าไหร่เลย
มาถึงองค์ประกอบของทีมนักแสดง ที่ถือว่าเป็นจุดช่วยหลักที่พยายามช่วยขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ แม้ว่าหนังจะพยายามปูทางให้แต่ละคาแรกเตอร์ต่างมีมิติและเรื่องราวของแต่ละคนเอาไว้ แต่กลับไม่ได้รับการดูแลเอาใส่ใจที่เพียงพอ ทำให้กลายเป็นเพียงปมจืด ๆ ที่ไม่ได้หนักแน่นและแข็งแรงอะไรสักเท่าไหร่ สุดท้ายก็ต้องใช้ทักษะการแสดงของนักแสดงมาช่วยอย่างเต็มที่
โชคดีที่ทีมนักแสดงค่อนข้างมีฝีมือ “สกาย วงศ์รวี” ที่แม้ว่าจะมีประสบการณ์ในระดับหนึ่ง และนี่เป็นบทพระเอกหนังเรื่องที่ 2 ในชีวิตของเขา การแสดงของเขาก็แทบจะไม่ได้ต่างอะไรไปจากเรื่องที่แล้ว (OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ) สักเท่าไหร่ ทั้งอินเนอร์และการออกแบบทางการแสดงก็ยังเหมือนเดิม ทำให้เผลอ ๆ ยังรู้สึกติดภาพคาแรกเตอร์จากอีกเรื่องของเขามาอยู่เลย
ขณะที่ “มินนี่ ภัณฑิรา” คนนี้มีฝีมือ แต่หนังได้นำเธอมาใช้ละเลงแบบยังไม่ค่อยถูกที่ถูกทางสักเท่าไหร่ เพราะอาจจะเจอบทที่ไม่ได้แข็งแรงสักเท่าไหร่ด้วย แต่เธอก็เล่นไปตามน้ำและมาตรฐานของตัวเองได้ดี ทางด้าน 3 ตัวละครเสริม “แพท ณปภา”, “แจ๊ส ชวนชืน” และ “สมจิตร จงจอหอ” ก็ถือว่ามาใช้พลังเอ็นเตอร์เทนของพวกเขามาใส่ในหนัง ถึงจะเต็มไปด้วยมุกและลูกไม้เดิม ๆ ที่ทำได้แค่ยิ้มแห้ง ๆ
อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ “ปาน ธนพร” ที่นาน ๆ จะได้เห็นนักร้องระดับดีว่ามาเล่นหนังสักเรื่องบ้าง เธอกลายเป็นคนที่สร้างเซอร์ไพรส์ในการแสดงให้กับหนังเรื่องนี้ได้ดี อาจจะเพราะการเข้าถึงบทบาทได้ดี และการแสดงแบบตลกหน้าตายของเธอ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่่น่าประทับใจอยู่ไม่เบาเนอะ ดูแล้วก็อยากจะเห็นเธอเล่นอะไรแบบนี้เต็ม ๆ ตา ๆ อีกสักที
โดยสรุปแล้วนั้น ปฏิบัติการกู้หวย The Lost Lotteries ก็จัดได้ว่าเป็นหนังไทยตลกที่มากับลูกไม้เดิม ๆ ลูกเล่นที่ไม่มีอะไรใหม่ แค่หยิบเอาวัฒนธรรมการเสี่ยงโชคของคนไทย มาผนวกเข้ากับเรื่องราวความปั่นป่วนตามสไตล์แนวถนัดของผู้กำกับผู้นี้ จะพยายามใส่ประเด็นเสียดสีสังคมและความเหลื่อมล้ำชนชั้นในสังคมไทยเข้าไป แต่ก็ยังไม่คมกริบที่เพียงพอ ท้ายที่สุดแล้ว..ก็ยังเป็นเพียงหนังไทยที่ทำได้แค่ฝืนยิ้ม ตลกไม่สุด ฮาไม่สุด และไม่สุดเลยสักทาง
หนังตลกไทยจากทุน Netflix เรื่องแรกเลยที่ทำออกมา ซึ่งจริงๆ ก่อนนี้เน็ตฟลิกซ์ก็พยายามสร้างแนวหนังไทยที่คนชื่นชอบอย่างผีมาหลายเรื่องแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นไปจับหนังตลกตีหัวเข้าบ้านแบบหนังโรงที่คนไทยก่นด่ากันไม่น้อยว่าทำออกมาทำไม แต่กลายเป็นว่าหนังแนวนี้กลับกำไรดี แทบจะไม่มีขาดทุนเลยสักเรื่อง
แถมพอหนังแนวนี้มาลงเน็ตฟลิกซ์ต่อให้รีวิวว่ากากกันจากโรงมาแค่ไหน ก็แทบจะติดอันดับ 1 ทุกเรื่องอยู่เสมอ (แต่กลุ่มลูกค้าพวกนี้ไม่ดูโรง) จนเน็ตฟลิกซ์เองก็คงเห็นยอดงามๆ ตรงนี้เช่นกันจึงได้ฤกษ์อนุมัติงานสร้างหนังตลกตีหัวเข้าบ้านลงสตรีมมิ่งเองบ้างดีกว่า ซึ่งก็เชื่อเลยว่าถ้าผลตอบรับดีนี่คงกลายเป็นอีกแนวที่เน็ตฟลิกซ์จะให้ทุนไทยทำต่อไปเรื่อยๆ อีกแน่ เพราะตัวเรื่องนี้เองตอนจบก็ยังทิ้งเชื้อแบบกะทำต่อไว้ชัดเจนโจ่งแจ้งมาก มากซะจนคิดว่าเผลอๆ เขียนบทเสร็จถ่ายทำต่อได้เลยดีกว่า
ผู้กำกับพยายามเอานักมวยมาเล่นหนังอย่าง สมจิตร จงจอหอ มาคู่กับ รถถัง แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ซึ่งมารับเล่นหนังครั้งแรก โดยบทก็เขียนยัดมาเลยว่าให้เป็นนักมวยเก่ากับปัจจุบันมาสู้กัน โดยสมจิตรเล่นเป็นคนหน้าเหมือนตัวเอง ซึ่งก็เป็นความพยายามขายล้อเลียนตัวเองที่พอฮาได้อยู่ แต่ตัวรถถังนี่มาแบบไม่รู้จะตลกอะไรตรงไหน เพราะบทพูดก็ไม่มี แค่เป็นฉากต่อยเล่นตลกไปเรื่อยไม่ขำเลยสักนิด
แล้วก็ตามสูตรผู้กำกับที่พยายามยัดดราม่าซึ้งๆ แบบเดิมเหมือนไบค์แมนคือ บทแม่ลูก บทพระเอกกับนางเอก ตัวเรื่องพยายามให้มีปมดราม่าเศร้าๆ อย่างแม่ถูกพ่อทิ้ง มาขายหวยเลี้ยงลูกใน กทม.จนพอมีพออยู่ได้ก็มาตกท่อ ทำให้พระเอกต้องมารับบทคนขายหวย (หล่อ) แทนแม่ที่ไม่สามารถทำงานเดินไปไหนมาไหนได้อีกแล้ว แล้วก็มีเรื่องของนางเอกที่พ่อโดนเก๋งหรูเมาแล้วขับชนจนโคม่า ต้องหาเงินมารักษากับสู้คดีฟ้องร้องให้ชนะ ซึ่งตัวเรื่องก็ดูเหมือนวางไว้ดีมีอะไรที่น่าจะช่วยเคลียร์ปิดปมนี้ตอนท้ายได้ซึ้งๆ แต่กลายเป็นปมที่เปิดคาไว้เผื่อทำภาคต่อซะงั้น ซึ่งไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
ตัวละครที่เด่นสุดในเรื่องคงเป็นพริตตี้ขายของสารพัดที่ แพท ณปภา ตันตระกูล เล่นมากกว่า เพราะลุคเซ็กซี่ตัวจริงกับบทมันได้ แล้วก็มีฉากฮาๆ ขายความเซ็กซี่กันเต็มๆ และถึงไม่ตลก ผู้ชมก็ยังต้องจ้องตาไม่กระพริบกับฉากเหล่านั้นอยู่ดี